ตอนที่ 13
“คุณช่วยปกปิดความผิดปริตตา คุณเข้าข้างเธอเพราะคุณกำลังจะแต่งงานกัน ฉันไม่น่าคิดว่าคุณจะไว้ใจได้คุณจะมีความยุติธรรม” ตัดพ้อจบชาดาผละจากไป ภาธรร้องเรียกให้เธอฟังคำอธิบายก่อนแต่เธอไม่สนใจ นะโมมองภาธรด้วยความผิดหวัง ตำหนิเขาที่ตีหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าปริตตาจะฆ่าแสงจันทร์
“ทำไมใจคอโหดอย่างนี้”ต่อว่าจบหว่าหวาชวนนะโมเดินหนี ภาธรมองตามกลุ้มใจที่ทุกอย่างแย่ไปหมด...
ในขณะที่ภาธรรู้สึกเหมือนตัวเองถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ผีเจ้าฟ้าทิพฉายมาหารวิปรียาที่ร้านขายของเก่า คร่ำครวญว่าตัวเองกำลังจะตายเพราะความรักอีกครั้ง แม้ภาธรสัญญาจะแต่งงานกับเธอ แต่ก็ถูกทุกคนขัดขวางไม่ยอมให้ใช้ชีวิตร่วมกัน ชาติปางก่อนมีฐานันดรศักดิ์กีดกั้นทำให้เธอกับออกญาพิชิตแสนพลไม่อาจครองรักกันได้ พอถึงชาตินี้ไม่มียศถาใดๆกีดกั้น ทุกคนกลับตราหน้าว่าเธอผิดไม่สมควรได้รักกลับคืน
“เจ้าเองก็ไม่เห็นใจความรักของเรา” ผีเจ้าฟ้าทิพฉายตัดพ้อไม่ได้แสดงความเกรี้ยวกราดเหมือนทุกครั้ง
“ท่านเห็นแก่ความรักของท่านคนเดียวไม่ได้ มันผิด ท่านต้องให้รักสร้างสิ่งดีงามไม่ใช่สร้างทุกข์ให้ชีวิตคนอื่น” รวิปรียาเห็นผีเจ้าฟ้าทิพฉายร้องไห้ด้วยความสะเทือนใจ พลอยเจ็บปวดไปกับเธอด้วย
“เรารู้ว่าเวลาของเรากำลังจะหมดลงแล้ว ไม่รู้อีกนานแค่ไหนที่เราจะได้เจอคนรักของเราอีก” ผีเจ้าฟ้าทิพฉายบีบน้ำตาจนรวิปรียาหลงเชื่อว่าเธอกำลังจะตายจริงๆเริ่มใจอ่อน
“ท่านมีความรักที่มั่นคงเจ้าฟ้าทิพฉาย ท่านจะได้พบภาธรอีก”
“เราหมดหวังไม่มีหวังอีกแล้ว ออกญาไกลจากเราไปทุกทีทุกภพทุกชาติที่จะแยกเราห่างกัน” ผีเจ้าฟ้าทิพฉายแกล้งหมดแรงทรุดลงกับพื้น สะอื้นไห้จนตัวโยน รวิปรียาสงสารยื่นมือเข้าไปช่วยพยุง เธอสะดุ้งโหยงเมื่อแหวนแก้วสุริยกานต์ที่นิ้วรวิปรียาแตะโดนแขน รวิปรียารีบชักมือกลับพร้อมกับขอโทษเธอ
“รวิปรียาเจ้าเป็นเทพ เจ้ามีแต่ความสุขบนสวรรค์ชั้นยามา แต่วิญญาณทุกข์ทนอย่างเราหนาวเหน็บโดดเดี่ยวอยู่ที่โคกร้างหนองพรายจนกระทั่งได้พบความหวัง เจ้าเข้าใจหัวใจเราบ้างหรือไม่ หัวใจที่รอคอยแค่เวลาสุดท้ายที่เราจะไม่ตายอย่างไร้คนรัก” ผีเจ้าฟ้าทิพฉายบีบน้ำตาคร่ำครวญ รวิปรียาเห็นใจเธอมาก
“ท่านยังมีเวลาลาจากภาธร” พูดจบรวิปรียาโทร.ตามภาธรให้มาที่ร้าน โดยไม่รู้เลยว่านี่เป็นแผนหลอกให้สงสารของผีเจ้าฟ้าทิพฉาย
ooooooo










