ตอนที่ 13
รวิปรียาไม่เห็นว่าเขาจะต้องรับผิดชอบอะไรทุกอย่างมันจบแล้ว ผีเจ้าฟ้าทิพฉายต้องรับผลกรรมที่ตัวเองทำลงไป ภาธรถามน้ำเสียงตื่นเต้นว่าผีเจ้าฟ้าทิพฉายอยู่ไหน ใช่ที่บ้านหนองพรายไหม
“ทิพฉายเขาอยู่ในที่ของเขาแล้ว ถ้าคุณอยากพาเขากลับมา ทุกคนจะเดือดร้อนไม่จบไม่สิ้น”
“ทำไมคุณรู้ทุกอย่าง คุณเป็นใครกันแน่ บอกผมหน่อย ผมอยากฟังจากปากคุณ”
“คุณไม่ต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร รู้แค่ฉันมาที่นี่เพราะฉันก็ต้องรับผิดชอบปัญหาที่ฉันสร้างขึ้นเหมือนกัน ถ้าจะจำก็จำชื่อฉัน จำว่าถึงฉันไม่มีเลือดเนื้อ แต่ฉันก็มีหัวใจ” รวิปรียาพูดทั้งน้ำตา ก่อนจะตัดใจเดินจากไป ภาธรได้แต่มองตามเสียใจที่ไม่สามารถปรับความเข้าใจกับเธอได้
ooooooo
ปริตตาที่มารอท่าภาธรอยู่กับทินเทพเห็นเขากลับถึงบ้านขอบคุณที่ช่วยเธอไว้ เขาออกตัวว่าไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ทินเทพยืนยันว่าทำ ถ้าเขาไม่พาผีเจ้าฟ้าทิพฉายไปที่หนองพราย ทุกอย่างคงไม่จบด้วยดี
“เราจะมาชวนอาไปกินข้าวกับคุณตาคุณยายน่ะค่ะ”
“มารอตั้งนานแล้วโทร.ไปหาอาก็ปิดเครื่อง”
“ฉันขออยู่คนเดียว” พูดจบภาธรขยับจะขึ้นข้างบน ทินเทพดักคอว่าคิดถึงเจ้าฟ้าทิพฉายไม่อยากให้เธอหายไปหรือ ถึงได้ทำหน้าเศร้าแบบนั้น เขาหันขวับสีหน้าเอาเรื่อง ปริตตาเห็นท่าไม่ดี ขอโทษเขาแทนพี่ทินด้วย ชวนเขาไปหาคุณหลวงด้วยกัน เขาไม่ไปอยากอยู่คนเดียวแล้วเดินหนีไปเลย ทินเทพจะตามไปต่อว่า เธอต้องดึงตัวไว้ขอร้องอย่าไปเซ้าซี้ ทินเทพอดบ่นไม่ได้ว่าเขาเป็นอะไรไปทำท่าราวกับรักผีเจ้าฟ้าทิพฉาย
“พี่ทิน หรือว่าอาภาธรกับเจ้าฟ้าทิพฉาย...”
“ไม่ๆๆ อาภาธรเขาไม่ได้รักเจ้าฟ้าทิพฉาย อาภาธรเขารักอยู่กับคุณรวิปรียา” ทินเทพพูดเองแต่เริ่มไม่แน่ใจว่าจะเป็นอย่างที่ตัวเองพูด ปริตตาเองสังหรณ์ใจว่าต้องมีอะไรแน่ๆ จึงชวนเขาไปหารวิปรียาที่ร้านขายของเก่าเพื่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ยิ่งทำให้ปริตตามั่นใจว่าทั้งคู่มีเรื่องไม่เข้าใจกัน พยายามกล่อมให้เธอไปเคลียร์กับเขา เธอกลับบอกว่าไม่มีอะไรต้องเคลียร์ ขอแค่ปริตตากลับมาเป็นปกติก็พอ
“แล้วอาภาธรล่ะ” ปริตตาทักท้วง ทินเทพช่วยเสริมว่าตอนนี้ภาธรมีอาการแปลกๆ รวิปรียาก็น่าจะเห็น
“มันไม่ใช่เรื่องของฉัน”
“โธ่ ผมคิดว่าคุณกับอาภาธรเป็นห่วงกัน”
รวิปรียาเป็นห่วงแค่ปริตตากับคุณหลวงสองคนเท่านั้น คนอื่นไม่เกี่ยว ทินเทพดักคอพูดแบบนี้แสดงว่าอาภาธรต้องเกี่ยวด้วยแน่นอน ปริตตาตีแขนเขาพร้อมกับส่งสายตาดุ ทินเทพถึงสงบปากสงบคำได้
ooooooo










