ตอนที่ 13
“ยายหนู...ยายหนูอย่าทิ้งแม่ไป” อรณีโผกอดที่นอนว่างเปล่าน้ำตาไหลพราก “เอาชีวิตฉันไปก็ได้ แต่อย่าเอาปริตตาไป อย่าเอาลูกสาวฉันไป”
เสียงคร่ำครวญของแม่ที่หัวใจแตกสลายกลัวจะเสียลูกไปดังไปถึงโคกร้างที่หนองพราย เสียงนั้นเหมือนมีแรงกระชากทำให้แสงสีแดงที่ครอบคลุมร่างภาธรกับผีเจ้าฟ้าทิพฉายในร่างปริตตาไว้แตกกระจาย ร่างของทั้งคู่ถูกพลังมหาศาลดึงให้แยกออกจากกันกระเด็นไปคนละทิศละทาง ภาธรกลิ้งไปตามพื้นบนโคกร้าง
ส่วนวิญญาณของผีเจ้าฟ้าทิพฉายหลุดออกจากร่างปริตตากลิ้งไถลมาโผล่บนเรือนไทย มาหยุดแทบเท้าผีเจ้าพระยามหศักดิ์ซึ่งมีโซ่ตรวนติดอยู่ เธอเงยหน้ามองเจ้าของเท้าที่ยืนค้ำหัวสีหน้าไม่พอใจ เขากระแทกไม้เท้าอย่างแรงเฉียดร่างเธอไปนิดเดียว
“หมดเวลาทำบาปแล้วเจ้าฟ้าทิพฉาย” เสียงกร้าวของผีเจ้าพระยามหศักดิ์ทำให้ผีเจ้าฟ้าทิพฉายประหวั่นพรั่นพรึง ถอยกรูดไม่เป็นขบวน เขาจ้องเธอราวกับจะเผาให้มอดไหม้ แล้วใช้พลังทำให้ประตูหน้าต่างทุกบานปิดสนิทกั้นไม่ให้เธอหนี ผีเจ้าฟ้าทิพฉายร้องเรียกชายคนรักด้วยความหวาดกลัว
“ออกญา ข้าอยู่นี่ ออกญาช่วยข้าด้วย” เสียงร้องขอความช่วยเหลือของผีร้ายที่กำลังหมดสภาพดังไปถึงหูภาธรที่ล้มกลิ้งอยู่บนโคกร้าง
“เสียงทิพฉาย...บ้านหนองพราย” คิดได้ดังนั้น ภาธรรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังเรือนไทยหลังนั้นทันที
ooooooo
ผีเจ้าฟ้าทิพฉายซึ่งเจ็บปวดไปทั่วร่างคลานไปที่ประตูเพื่อออกจากเรือนไทย แต่มันล็อกแน่นหนาเปิดไม่ออก ผีเจ้าพระยามหศักดิ์ตะโกนไล่หลัง ไม่มีสิ่งใดชนะกรรมดีที่สั่งสมมา และไม่มีอำนาจใดอยู่เหนืออำนาจความดี เธอหันขวับไปมองยืนกรานจะกลับไปหาคนรักของตัวเอง
“สำนึกผิดและยอมรับบาปที่ท่านก่อไว้เถิดเจ้าฟ้าทิพฉาย ท่านไม่มีวันสมหวังกับคนรักของท่านอีก”
“ไม่...” ผีเจ้าฟ้าทิพฉายหันไปผลักผีเจ้าพระยามหศักดิ์สุดแรง แต่เขาหายวับไปกับความมืดมิดเสียก่อน เธอไม่ยอมแพ้กัดฟันเดินไปที่หน้าต่างลองผลักดูไม่มีบานไหนเปิดได้ ถูกขังอยู่ในภพภูมิของวิญญาณ
“ออกญา ช่วยข้าด้วย” ผีเจ้าฟ้าทิพฉายกรีดร้องเหมือนจะขาดใจตาย...
ทางฝ่ายรวิปรียากับทินเทพวิ่งมาถึงโคกร้างเห็นร่างปริตตานอนฟุบอยู่กับพื้นรีบเข้าไปประคอง อยู่ๆเธอเลือนหายไปต่อหน้า เขาตกใจพยายามไขว่คว้าเธอไว้แต่คว้าได้แค่ลมถึงกับสติแตก
“น้องหนู! ทำไมน้องหนูหายไป”










