ตอนที่ 12
คนที่ดาญ่าถามถึงกำลังไปหาเหิมที่ออฟฟิศเพื่อคุยเรื่องที่ท่านบุกเข้าไปในเรือนเล็กทำร้ายฝนและคุกคามดาญ่า แทนที่จะรู้สึกผิด เหิมกลับบอกว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่ไม่เจอนังนั่นลอยอืดเป็นศพอยู่ในสระหน้าบ้าน
“เหมือนกับที่พ่อทำกับอาภิมุขหรือเปล่าครับ”
“ไอ้เนรคุณ เลี้ยงเสียข้าวสุก แกหาว่าฉันฆ่าพ่อนังดาญ่าอย่างนั้นหรือ”
“ตั้งแต่เล็กจนโต ผมคิดมาเสมอว่าพ่อเป็นคนมีคุณธรรม เป็นคนที่ผมยกย่อง เวลามีใครกล่าวหาพ่อว่าไม่ดี ผมเถียง ผมออกรับแทนพ่อตลอด แต่ตอนนี้... ผมชักไม่แน่ใจ”
“อย่างนั้นเหรอ” เหิมหยิบปืนจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน ขึ้นมากระชับในมือ เทวัตได้แต่มองตะลึง...
อีกมุมหนึ่งในแผนกบัญชี เนื่องจากเป็นวันหยุดออฟฟิศจึงร้างผู้คน รังสรรค์เปิดห้องทำงานเข้าไปเจอสภาพถูกรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจายก็ตกใจมากปรี่ไปที่ตู้เก็บเอกสารค้นหาใบเสร็จค่าซื้อยาแต่ไม่เจอถึงกับกุมขมับเพราะนั่นคือไพ่ใบสุดท้ายของตัวเอง เขามั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือเหิม เดินหงุดหงิดออกจากห้อง...
ด้านเหิมเดินลูบปืนเข้ามาหาเทวัตช้าๆด้วยท่าทีคุกคาม บ่นให้ฟังว่าไม่น่าเก็บเขาเอาไว้เลย น่าจะปล่อยให้ถูกถ่วงน้ำให้รู้แล้วรู้รอดตั้งแต่ตอนนั้น เทวัตสนใจขึ้นมาทันทีนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องราวของตัวเอง ซักเป็นการใหญ่ว่าใครจะถ่วงน้ำเขาหรือ เหิมเฉลยว่าเป็นญาติของเทวัตเอง
“มันไม่อยากเอาแกไว้ แต่พอดีฉันเสือกไปอยู่ตรงนั้น กับมันด้วย ฉันก็เลยตกกระไดพลอยโจนเอาแกมาเลี้ยง”
การได้มาคุยกับเหิมครั้งนี้ทำให้เทวัตรู้ความจริงว่าตัวเองไม่ได้เป็นญาติทางไหนกับเหิมด้วยซ้ำ และที่ท่านรับเลี้ยงเขาเพราะต้องการเงินค่าเลี้ยงดูจากญาติคนนั้นของเขา ทีแรกท่านตั้งใจจะเลี้ยงไว้อย่างนั้นเองแล้วค่อยทิ้งเขาทีหลัง แต่ภิมุขดันยื่นมือเข้ามาช่วยจ่ายเงินส่งเสียให้เขาเรียน ท่านก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย
“งั้นพ่อบอกได้ไหมว่าใครฆ่าอาภิมุข”










