ตอนที่ 12
ทันใดนั้นมีดหมอที่ปักพื้นก็เรืองแสงแผ่ไปทั้งป่าช้า เงาดำมืดที่พุ่งเข้าออกตัวพิกุลค่อยๆสลายกลายเป็นร่างคน ดวงวิญญาณเหล่านั้นที่มองพิกุลเหมือนจะมุ่งทำร้ายตอนแรก เปลี่ยนเป็นยกมือไหว้พิกุลเพื่อขอรับส่วนบุญ กำนันพงษ์เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็กลัวลนลานรีบเข้าไปหาหมอผีถามว่านี่มันอะไรกัน
“พวกมึง...ไอ้ทรยศ!!!” หมอผีชี้หน้าภูตผีเหล่านั้นนิ้วสั่นระริก
สิ้นเสียงหมอผี ดวงวิญญาณทั้งหมดก็กลายเป็นเงาดำพุ่งเข้าหาหมอผีทุกทวาร หมอผีดิ้นอย่างเจ็บปวดกระอักเลือดต่อหน้ากำนัน
“อีพิกุล!!!” กำนันคำรามอย่างเจ็บแค้น
“มึงต้องชดใช้!!” พิกุลชี้หน้ากำนันประกาศลั่น กำนันเห็นหน้าพิกุลที่โกรธแค้นก็หวาดกลัว รีบหนีไป
พิกุลจะตามแต่หมดแรงเสียก่อนได้แต่มองตามกำนันไปด้วยความแค้น ฝ่ายกำนันวิ่งขาขวิดหาทางออกจากป่าช้าคอยเหลียวดูว่าพิกุลตามมาหรือไม่ จนตกไปในหลุมศพที่ขุดทิ้งไว้ ในหลุมมีโลงและโครงกระดูก พอกำนันรู้ว่าตกในหลุมศพก็ตะเกียกตะกายจะขึ้น แต่ฝาโลงเลื่อนปิดเสียก่อน
กำนันทุบฝาโลงร้องให้คนช่วย แต่ฝาโลงปิดสนิทมีผีตายโหงนั่งทับไว้ทั้งสี่มุม กำนันทุบจนหมดแรงก็เปิดไม่ได้ กำนันร้องอย่างหมดท่าว่า “ช่วยด้วย...กูยอมแล้ว... กูยอมแล้ว”
เมื่อไม่มีหมอผีและกำนันพงษ์แล้ว พิกุลฟุบหน้าบนตักของเพียรมีจางวางพ่วงยืนมองอย่างเวทนา เพียรบอกว่าเวลาของแม่หมดแล้ว แม่กับพ่อส่งเอ็งได้แค่นี้ ลูบหัวพิกุลอย่างอาลัยอาวรณ์อธิษฐาน...
“บุญกุศลอันใดที่แม่กับพ่ออุทิศให้เอ็งได้ ขอให้บุญกุศลนั้นทำให้เอ็งเห็นทางสว่างเพื่อละอาฆาตพยาบาทเร็ววันนะพิกุล”
พ่อแม่ลูกลาจากกันน้ำตาไหล เสียงปี่พาทย์มโหรีดังขึ้นเหมือนจะส่งคนทั้งสอง จนร่างทั้งสองค่อยเลือนหายไป เหลือแต่พิกุลยังนอนฟุบอยู่ตรงนั้น...
ooooooo
ทิพย์เกสรหายดีแล้วก็ออกตามหานิราศ โดยไปหาเจ้าอาวาสบอกว่าลูกชายตนมาหาซื้อเรือนไทยเก่าแถวนี้แต่หายตัวไปติดต่อไม่ได้ เลยต้องมาตามหาเอง
สมคิดบอกว่า สารวัตรบอกว่าท่านเป็นคนเก่าแก่ที่นี่น่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าคนอื่นตนจึงมาพึ่งท่าน เจ้าอาวาสเห็นเปรื่องเหมือนมีอะไรจะพูด ถามว่า “มีอะไรหรือเปล่าโยมเปรื่อง”
“สองสามวันก่อนมีชาวบ้านมาทำบุญที่วัด แกว่ามาทำบุญล้างซวยเพราะเห็นผีตรงเรือนไทยริมน้ำ”










