ตอนที่ 12
เช้าวันต่อมาระรินไปที่บ้านพิชัยเดชาเธอมองปี่ในตู้กระจกอย่างสนใจ พิชิตชัยเล่าความเป็นมาว่า
“ปี่เลานี้เป็นมรดกตกทอดมาหลายต่อหลายรุ่น ผ่านเรื่องราวความผูกพันมายาวนาน” ระรินบอกว่าตนทราบว่าปี่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาคิดทำมิวเซียมใช่ไหม “ครับ ผมขอบคุณนะครับที่ยอมตกลงมาช่วยเรื่องการทำมิวเซียมในครั้งนี้ ได้ภัณฑารักษ์ไฟแรงมาช่วย ผมคงตายตาหลับสักที”
“พ่อลืมผู้อำนวยการมิวเซียมสุดหล่อไปอีกคนนะครับ” วิลิตเดินยิ้มสดชื่นเข้ามา แล้วแนะนำตัวเองทันที “สวัสดีครับ ผมวิลิต ผู้อำนวยการมิวเซียม เราจะทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันให้มิวเซียมของเราเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ”
พิชิตชัยขัดคอว่าวันก่อนยังโวยวายว่าจะขาย
วันเดียวหน้ามือเป็นหลังมือ อะไรดลใจหรือ วิลิตมองระริน พูดเต็มปากเต็มคำว่า
“เรียกว่าแรงบันดาลจากหัวใจดีกว่าครับ” พิชิตชัยปรามว่าไอ้วี...เบาๆหน่อย วิลิตมองระรินอย่างโหยหา “ขอโทษนะครับที่ผมอาจจะดูไม่สุภาพ แต่ผมรู้สึกเหมือนผมรอมานานไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทันทีที่เจอคุณระริน ความรู้สึกผมก็บอกว่าผมจะไม่ยอมเสียเวลาอีกแม้แต่นาทีเดียวที่จะขอมีคุณระรินในชีวิต”
ระรินขอตัวไปสำรวจรอบๆก่อนแล้วค่อยมาคุยเรื่องไอเดียกับพิชิตชัย พอระรินไป พิชิตชัยก็ปรามวิลิตว่า “ถ้าไม่จริงจังก็หยุดเลยนะ กว่าพ่อจะหาภัณฑารักษ์ฝีมือดีได้นี่ยากมาก ถ้าเขาไม่รับงานนี้พ่อจะเล่นงานแก”
วิลิตบอกว่าคนนี้ผมหวังแต่งเลย แล้วขอตัวไป เลขาบอกว่าไม่เคยเห็นคุณวิลิตจริงจังกับใครแบบนี้มาก่อน พิชิตชัยยิ้มๆ เชื่อว่า “ถ้าคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันหรอก”
ไม่นานที่ถนนเลียบริมทะเล ก็มีรถเปิดประทุนหรูขับมา มีระรินนั่งข้างคนขับ ทั้งสองสดชื่นแจ่มใสมาก
และอีกหลายปีต่อมา...วิลิตที่เดินคู่กับระรินที่ชายหาดก็ยังแสดงความรักราวกับเพิ่งรักกันใหม่ๆ แล้ววิลิตก็คุกเข่าหยิบแหวนออกมาเอ่ย
“Will you marry me?”
“Yes.”
ระรินยื่นมือซ้ายไปข้างหน้า วิลิตดีใจมากสวมแหวนให้ระรินด้วยความรักแล้วอุ้มระรินหมุนไปรอบๆ
“ผมจะไม่ยอมปล่อยมือจากคุณอีก ผมสัญญา”
“ขอบคุณนะคะที่ทำเพื่อริน”
ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมีความสุข จับมือกันเดินไปบนชายหาดที่แสนสวย...
ooooooo
–อวสาน–










