ตอนที่ 11
ทรงศิริเดินหัวเสียออกจากห้องประชุมพร้อมกับเล่นงานประภาพรรณยกใหญ่ ไหนว่ากลบเรื่องบัญชีได้ แล้วทำไมถึงมีคนรู้ว่าเราเบิกเงินเกิน เธอจะตรวจสอบดูอีกทีมีใครรับเงินจากเราไปแล้วปากโป้ง
วิวรรณที่หอบเอกสารวุ่นวายตามมาด้านหลังเร่งฝีเท้าให้ทันเจ้านายแต่ดันสะดุดขาตัวเองหน้าคะมำแฟ้มเอกสารร่วง คุณหญิงพันฉวีที่ตามมาอีกทอดหนึ่งเข้ามาช่วยเก็บข้าวของและถือโอกาสสอบถามบางอย่าง
“คุณวิวรรณจริงหรือเปล่าที่คุณหญิงของเธอกำลังจะขายที่ให้โรงงานขยะ”
ทีแรกวิวรรณลังเลไม่กล้าพูด แต่สุดท้ายก็ยอมเปิดปากบอกว่าเป็นความจริง ขอร้องคุณหญิงพันฉวีหากพอจะขวางได้ก็ให้ช่วยขัดขวางทรงศิริด้วย โรงงานขยะที่หนองพรายรังแต่จะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน
คุณหญิงพันฉวีมองตามวิวรรณที่ผละจากไปสีหน้าหนักใจ คิดไม่ตกจะขวางทรงศิริได้อย่างไร คิดไปคิดมาอยู่หลายตลบก็นึกถึงผกาขึ้นมาได้รีบโทร.ไปนัดให้มาเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง...
หลังจากทักทายกันตามมารยาทแล้ว คุณหญิงพันฉวีพูดเข้าเรื่องที่ต้องโทร.มานัดผกาครั้งนี้ เนื่องจากทราบข่าวมาว่าทรงศิริจะเอาที่ดินที่หนองพรายให้ต่างชาติทำโรงงานกำจัดขยะ
“บริษัทที่คุณหญิงทรงศิริติดต่อด้วยเป็นนอมินีของธุรกิจสีเทา เรื่องนี้ดิฉันตรวจสอบมาอย่างดีแล้วถึงไม่สบายใจจริงๆกลัวว่าจะไม่ใช่แค่เรื่องโรงงานขยะ ถ้าคุณผกาพอจะทัดทานน้องสะใภ้ได้ ดิฉันอยากจะรบกวนช่วยเตือนคุณหญิงทรงศิริได้ไหมคะ”
ประภาพรรณเดินเข้ามาในร้านอาหารกับทรงศิริและวิวรรณเห็นคุณหญิงพันฉวีกับผกาก็สะกิดให้เจ้านายดู ตั้งข้อสังเกตว่าสองคนนั่นกำลังคุยกันเรื่องที่ดินหนองพราย คุณผกายังไม่ขายที่ดินให้ท่าน
“สอดไม่เข้าเรื่อง รีบโทร.ไปบอกคนซื้อว่าให้เอาสัญญาเช่าที่ดินมาให้ฉันพร้อมเช็ค” ปากสั่งแต่สายตา ของทรงศิริจับต้องไปที่ผกากับคุณหญิงพันฉวีสีหน้าเจ็บใจ...
ในเวลาเดียวกันบนยามาภูมิ รวิปรียาว้าวุ่นใจมาก ถ้าผีเจ้าฟ้าทิพฉายแต่งงานกับภาธร จิตของปริตตาจะกลับร่างไม่ได้อีก คิดจะกลับโลกมนุษย์ ทันใดนั้น พระสุยามะปรากฏร่างขึ้น
“จงอยู่ที่นี่รวิปรียา ไม่ใช่เรื่องของเจ้าที่จะไปเกี่ยวข้องกับกรรมของคนพวกนั้น”
รวิปรียาไม่กล้าขัดคำสั่งท่านพ่อ ได้แต่ยืนนิ่งแต่ในใจร้อนดั่งไฟ...










