ตอนที่ 11
ทินเทพพูดจบเดินอมยิ้มออกไป ผกามองตามแปลกใจหลานชายตัวเองแอบไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่...
ทรงศิริคิดการใหญ่จะนำที่ดินที่กว้านซื้อจากชาวบ้านหนองพรายไปให้นายทุนต่างชาติเอาไปทำโรงงานกำจัดขยะ ชาลีทักท้วงขยะมีพิษหรือเปล่า ตรงนั้นเป็นนาเป็นสวนแถมใกล้แม่น้ำ ถ้าทิ้งขยะเคมีหรือขยะปนเปื้อนสารพิษอาจไหลลงแหล่งน้ำสาธารณะทำให้ชาวบ้านป่วยได้
“ก็ช่างสิคะ เราไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้นสักหน่อย ให้โรงงานสร้างบนที่ดินของเราแล้วเราก็เป็นหุ้นด้วย”
“กำไรมหาศาล” เส้นความโลภของชาลีแตกซ่าน ทั้งคู่มัวแต่ฝันหวานถึงเงินทองมากมายที่จะได้รับ ไม่ทันเห็นอรณีแอบฟังอยู่กับสารัชด้วยสีหน้าเป็นกังวล รีบดึงมือสามีออกมาคุยกันที่มุมปลอดคนปรึกษาหารือว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี จะปล่อยให้พ่อกับแม่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนไม่ได้ สารัชไม่เห็นทางจะทำอะไรได้ เธอเองก็ห้ามพวกท่านไม่ได้อยู่แล้ว ขนาดเขายังถูกพ่อของเธอบังคับให้ลาออกจากโรงพยาบาล
“ผมอยากไปจากที่นี่ พาคุณพาลูกออกไป แต่... พ่อคุณไม่มีวันยอม”
“ฉันก็อยากพายายหนูไปจากที่นี่ คนที่จะช่วยเราได้ มีแค่คนเดียว”...
คนที่อรณีพูดถึงไม่ใช่ใครที่ไหน คือผกานั่นเอง สองผัวเมียไม่รอช้าแวะไปหาท่านที่บ้านขอให้รับปริตตา กลับมาอยู่ที่นี่เหมือนเดิม ท่านไม่ขัดข้อง แต่คนที่ไม่อยากมาอยู่เป็นตัวปริตตาเอง ตั้งแต่คุณหลวงป่วย เธอกลับไปอยู่บ้านทรงศิริแล้วไม่ยอมกลับมาอยู่ที่นี่อีกเลยเหมือนที่นี่ไม่เคยมีความหมายอะไรกับเธอ
“ยายหนูแกไม่ค่อยสบายน่ะครับ อาจจะงอแงไปบ้าง” สารัชแก้ตัวแทนลูก
“เราก็รู้กันอยู่ว่าไม่ใช่เหตุผลนั้น” ผกาดักคอ
“ที่นี่ไม่เคยรังเกียจปริตตา เรารักเขา รักเหมือนเลือดเนื้อเขามาจากเรา แต่ที่ผ่านมาปริตตากลายเป็นคนอื่น แทบไม่ใช่เด็กที่เราเลี้ยงดูฟูมฟักเขามา บอกมาตรงๆดีกว่าทำไมเธอสองคนถึงอยากให้ปริตตากลับมาที่นี่ มีเรื่องอะไรที่บ้านคุณหญิงทรงศิริกันแน่”
สารัชเห็นอรณีอึดอัดที่ต้องพูดถึงแม่ในทางไม่ดีจึงเป็นคนตอบคำถามแทนว่าทรงศิริเคยใช้ให้ปริตตาไปกว้านซื้อที่ดินหนองพราย แล้วตอนนี้จะเอาที่ดินตรงนั้นขายให้โรงงานทิ้งขยะจากเมืองนอก แต่พวกตนกลัวว่าถ้าโรงงานมีขยะพิษ ชาวบ้านหนองพรายจะเดือดร้อน ผกาเศร้าใจกับความโลภของทรงศิริ
“โธ่เอ๊ย คุณหญิงทรงศิริรวยล้นฟ้าอยู่แล้วทำไมถึงเอาเปรียบชาวบ้านอีก ไม่กลัวบาปกลัวกรรมบ้างหรือไง”
ooooooo










