ตอนที่ 11
ผีเจ้าฟ้าทิพฉายในร่างปริตตาเดินลิ่วลงจากเรือนไทย ภาธรที่เดินตามมาอดถามไม่ได้ว่ากลัวอะไร เธอไม่ได้กลัว ไม่มีใครทำให้เธอกลัวได้หากมีเขาอยู่ด้วย เขาไม่เข้าใจทำไมเธอถึงชอบที่นี่นัก
“ฉันเคยมีความสุขถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่มันก็เป็นความสุขที่ไม่ต้องคิดถึงยศถาบรรดาศักดิ์ ถึงอยู่ในอันตรายที่สุด ฉันก็ยังอุ่นใจ ถึงร่างจะสูญสลายแต่เราจะไม่ตายไปจริงๆถ้ามีใครสักคนรักเรา” ผีเจ้าฟ้าทิพฉายส่งยิ้มหวานมาให้ ภาธรถูกสะกดจิตให้หลงใหลรอยยิ้มนั้นดึงเธอมากอดแนบอก
รวิปรียาถอดจิตมาเห็นทั้งคู่กอดกันอย่างมีความสุข ถึงกับน้ำตาร่วง ภาพบาดตาทำให้เธอนั่งสมาธิต่อไปไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นลุกหนีไปเลย ทินเทพพลอยเสียสมาธิไปด้วยเห็นเธอเดินลิ่วออกจากห้องรีบลุกตาม ผกาเข้ามาเจอรวิปรียาเดินปาดน้ำตามาตามทางถามว่าเป็นอะไร เธอไม่อยากพูดถึงจึงโกหกว่าไม่มีอะไร ทินเทพที่ตามมาด้านหลังเล่าว่าเราสองคนพยายามโทร.หาอาภาธรแต่ติดต่อไม่ได้
“อาปิดเครื่องครับ ไม่รู้ว่ายุ่งอะไร”
“คุณภาธรไม่น่าจะปิดเครื่องนะ เธอบอกจะเปิดเครื่องไว้ตลอดเผื่อคุณหลวงอาการดีขึ้น เดี๋ยวย่าลองโทร.หาสิ” ผกาหยิบมือถือตัวเองขึ้นมากดเบอร์ ภาธรซึ่งอยู่บนเรือนไทยที่หนองพรายกำลังจะจูบผีเจ้าฟ้าทิพฉาย ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้นก็ชะงัก หยิบมันขึ้นมาดูเห็นเป็นเบอร์ผกา เดินออกไปรับสายที่ระเบียงบ้าน ผีเจ้าพระยา มหศักดิ์ซึ่งทำลายอำนาจสะกดจิตของผีเจ้าฟ้าทิพฉายปรากฏตัวขึ้นมองมาที่เธอเขม็ง
ooooooo
ผีเจ้าฟ้าทิพฉายไม่พอใจที่ถูกขัดขวางเดินตรงเข้าไปหาผีเจ้าพระยามหศักดิ์ที่อยู่ในเงามืด ถามเสียงเขียวว่าเป็นใครมายุ่งเรื่องของตนทำไม ท่านขอร้องเธออย่าทำผิด อย่าติดกับกิเลสในใจตัวเอง
“ไม่ต้องมาสั่งสอน ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร” ผีเจ้าฟ้าทิพฉายยังไม่ทันได้คำตอบ ภาธรเดินกลับมาเสียก่อน
“ทิพฉาย ผมต้องกลับแล้ว”
ผีสาวหันมองอีกทีผีเจ้าพระยามหศักดิ์หายไปแล้ว ขบกรามแน่นด้วยความแค้น...
ทั้งทินเทพและรวิปรียาต่างแปลกใจที่ผกาโทร.หาภาธรครั้งเดียวก็ติดต่อได้ ทั้งที่เราสองคนโทร.หาเขามือแทบหงิก รวิปรียายังงอนเขาไม่หาย ในเมื่อติดต่อเขาได้แล้ว เธอขอตัวกลับก่อน ผกาแปลกใจทำไมไม่อยู่รอเขากำลังกลับมา เธอส่ายหน้าไม่ยอมรอ แล้วหันไปบอกทินเทพให้รีบติดต่อชาดาให้ได้จากนั้นก็เดินลิ่วจากไป
“แปลกๆนะครับ ตอนแรกก็อยากเจออาภาธรแล้วอยู่ๆก็ไม่อยากเจอ”...










