ตอนที่ 15
“ฉันไม่เอาแล้วนะ ไม่ยอมนะ เกิดอะไรขึ้นกับกัญญาวีร์จำไม่ได้เหรอสารวัตร ไม่เอาแล้วนะ”
“เชื่อเถอะ ผมเป็นกังวลไม่น้อยกว่าใครหรอกครับ” ชยธรยืนยัน
ooooooo
นิรมนเข้าครัวทำมื้อค่ำรอชยธรกลับมากินข้าวพร้อมหน้า ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามา รีบเช็กความเรียบร้อยบนโต๊ะอาหาร แล้วนั่งยิ้มรอ พอเห็นชยธรเดินเข้ามาถามว่าหิวไหม เขาพยักหน้า จากนั้นทั้งคู่นั่งกินข้าวด้วยกัน
ครั้นกินข้าวเสร็จ นิรมนเห็นสีหน้าไม่สู้ดีนักของชายคนรักพยายามกระเซ้าเย้าแหย่หวังให้เขาสบายใจ
“ไหน อาการเป็นอย่างไรบอกหมอมาซิ”
“ผมชอบชีวิตแบบนี้นะ เลิกงานกลับบ้านมีคนรอกินข้าว มันนานจนผมแทบลืมไปแล้วว่ามนุษย์ทั่วไปเขาใช้ชีวิตแบบนี้”
“นั่นไม่ใช่เรื่องที่พี่ธรอยากจะพูดแน่ๆ” นิรมนมองชยธรอย่างรู้ทัน เขาอึกอักไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี สุดท้ายก็ยอมเปิดปากว่ามีเรื่องต้องให้เธอเสี่ยง ยังพูดไม่ทันจบเธอยกมือห้ามไว้
“พี่ธรไม่ต้องพูดแล้วค่ะ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรมนยินดีทำค่ะ”
ooooooo
ทันทีที่เตชิตเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา พิพัฒน์ถามว่ารู้เรื่องที่ทางกระทรวงมหาดไทยเอาด้วยกับโครงการของเราแล้วใช่ไหม เขาพยักหน้ารับคำอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก พิพัฒน์เข้ามาตบไหล่เขาเบาๆ
“อาจจะทำใจยากนิดหนึ่งจากการที่พลิกขั้วจากฝ่ายต่อต้านมาเป็นฝ่ายสนับสนุน แต่เชื่อเถอะ มันไม่ได้ยากอย่างที่เธอคิดหรอก”
“ผม...จัดการเรื่องส่วนตัวเสร็จผมก็จะถอนตัวเดินจากไป ที่เหลือมันเป็นเรื่องของคุณ”
“ไม่มีคำว่าส่วนตัวหรอก ระหว่างเราน่ะ ฉันมีข่าวดีหลายเรื่องเลย ตามมาสิ” พิพัฒน์เดินนำออกไป เตชิตมองตามไม่เข้าใจ เหลียวมองไปที่โต๊ะทำงานเห็นรูปตัวเองถ่ายกับแม่ที่พิพัฒน์จงใจวางไว้ยิ่งงุนงงหนักขึ้น
ไม่นานนัก พิพัฒน์เดินนำเตชิตมาถึงห้องทดลองขององค์กร เห็นกฤตนัยนั่งมองร่างสองร่างที่มีสายชาร์จเสียบระโยงระยางอยู่ใต้ผ้าคลุมมิดชิดด้วยสีหน้าไม่สบายใจ แล้วหันไปพูดกับเตชิต
“ด็อกเตอร์ไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆ...ใช่ไหมครับด็อกเตอร์”
“ฉันสร้างสิ่งที่แกต้องการแล้ว แกต้องเลิกยุ่งกับฉันและครอบครัวซะ”
“ให้มันสมบูรณ์อย่างที่รับปากซะก่อนเถอะ” พิพัฒน์ว่าแล้วนั่งลงถลกแขนเสื้อขึ้น เจ้าหน้าที่เข้ามาเอาเข็มแทงเส้นเลือดเขา เตชิตกับกฤตนัยมองเขางงๆ พิพัฒน์ยิ้มพอใจ “งงใช่ไหมว่าทำอะไร...อยู่ใกล้ๆกับนำบุญ ฉันเดาว่ามันคงเคยเล่าเรื่องอะไรบางอย่างให้ด็อกเตอร์ฟังบ้างใช่ไหม”
กฤตนัยหันมองเตชิตก่อนหันกลับไปทางพิพัฒน์ “ฉันเคยสงสัย อย่าบอกนะว่ามันเป็นความจริง”










