ตอนที่ 13
ไม่เอาเรื่องอะไรเหิม รีบผละออกมา เหิมเห็นอย่างนั้นผลัก รปภ.พ้นทางแล้วเดินตามเธอไป
ooooooo
ดาญ่าเดินกลับมาที่ลานจอดรถเจอเทวัตมาดักหน้า พาหลบไปอีกทางหนึ่งได้ทันก่อนที่เหิมจะตามมาเจอ ทั้งคู่วิ่งหนีมาไกลแล้วจึงพากัน
หยุดหอบที่หลังกำแพง เทวัตค่อยๆยื่นหน้าไปดู
ไม่เห็นเหิมตามมาก็โล่งอก หันมาถามเธอว่าพ่อของเขาทำอะไรเธอบ้าง กว่าเขาจะแจ้ง รปภ.ให้ตามไปช่วยไม่รู้ว่าช้าไปหรือเปล่า
หญิงสาวส่ายหน้าเป็นทำนองว่าไม่ช้าแล้วโผกอดเขาไว้ขอบคุณที่มาช่วยเธอไว้ทัน เขากอดตอบปลอบใจ
“ผมควรจะเป็นคนที่เข้าไปช่วยคุณไม่ใช่ รปภ. ผมขอโทษครับดาญ่า”
“ขอโทษทำไมคะคุณทำถูกแล้ว ถ้าคุณเข้าไปช่วยฉันให้พ่อคุณเห็น ทุกอย่างที่ฉันเตรียมพร้อมไว้ก็จะพังหมด”
เทวัตถามย้ำว่าไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม เธอ
ไม่เป็นอะไรแค่ตกใจคาดไม่ถึงว่าเหิมจะเข้ามาแย่งกระเป๋าเธอไป ท่านคงคิดว่าเธอเก็บกุญแจเซฟของธนาคารไว้ในนี้ มีเสียงมือถือของเทวัตดังขึ้น อารยะโทร.มาถามว่าดาญ่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาว่าไม่ต้อง เป็นห่วงเธออยู่กับเขาแล้ว อารยะค่อยเบาใจหน่อย คิดไม่ถึงว่าวัชรีจะมาฟูลทีมขนาดนี้
“อย่าเพิ่งเม้าท์สิ ให้สองคนนั่นรีบไปให้พ้นจากตรงนั้นก่อนเถอะ” เนตรสุดาเตือน
“ได้ยินเมียฉันสั่งไหมไอ้เทวัต แกรีบพาคุณดาญ่าไปจากที่นี่ก่อน ฝากไปส่งคุณดาญ่าที่บ้านด้วย” อารยะวางสายแล้วหันไปปัดมือเนตรสุดาที่ตบตีเขาอุตลุด
“โอ๊ย มาตีผมทำไมเนี่ย”
เนตรสุดาตีเขาฐานปากเสียเธอไปเป็นเมียเขาตอนไหน เขาอธิบายว่าก็เราปลอมเป็นคู่ผัวเมียอยู่ไม่ใช่หรือ เนตรสุดาถึงได้หยุดทุบตีเขาได้ สองคนยังคงหยอกล้อกันอย่างมีความสุขก่อนจะพากันขับรถออกไป...
ทั้งอารยะและเนตรสุดาหยอกล้อกันตั้งแต่ออกจากห้างฯยันกลับถึงบ้านฝ่ายหญิง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นกระชับมากขึ้นทุกที...
อาการปวดท้องของจักรินหนักหนาสาหัสกว่า
ที่คิด หมอซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันวินิจฉัยเบื้องต้นว่าเขาอาจจะเป็นมะเร็งตับขั้นที่สี่ ขอให้เขากลับมาตรวจให้ละเอียดอีกครั้งโดยจะเจาะเนื้อตับไปเพาะเชื้อ คำพูดของหมอทำเอาจักรินรู้สึกหมดหวังในชีวิต เดินมาตาม
ทางเดินในโรงพยาบาลอย่างหมดอาลัยตายอยาก
“หรือนี่จะเป็นเพราะบาปที่ฉันก่อไว้ กรรมมันถึงได้ตามทันในชาตินี้” จักรินพูดไปน้ำตาไหลไปด้วย หยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาเหิมที่กำลังคุยกับวัชรี รังสรรค์และนันทิยาเรื่องที่แผนผิดพลาดแย่งกระเป๋าถือของ










