ตอนที่ 13
“ผมทาให้นะครับ นี่เป็นขี้ผึ้งของหลวงพ่อที่วัดให้ผมติดตัวมาไว้รักษาอาการฟกช้ำปวดบวมได้ผลชะงัดนัก”
เทวัตฝากฤกษ์ไปกราบหลวงพ่อให้ด้วยถ้ากลับไปเจอท่าน ถึงตนจะโชคร้ายเจ็บตัวแต่ก็ยังโชคดี
ที่มียาดีและคนดีๆช่วยรักษา ฤกษ์สงสัยว่าอยู่ๆทำไมจักริน
ถึงเข้ามาทำร้าย เทวัตเองก็ไม่รู้เหมือนกัน หรืออาจเป็นเพราะเขาถือวิสาสะเข้ามาอยู่ในบ้านพ่อของจักรินก็เลยโกรธ
“เขามีน้ำหน้าอะไรมาโกรธคุณครับ ก็ในเมื่อท่านเป็นคนอนุญาตให้คุณมาอยู่ เขาซะอีกเป็นลูกชายแท้ๆ
กลับไม่มาอยู่บ้านคอยดูแลพ่อตัวเอง”
ชายหนุ่มท้วงถึงอย่างไรจักรินก็เป็นลูกของวิจารณ์ ส่วนเขาเป็นใครก็ไม่รู้ ลูกหลานก็ไม่ใช่ เชื้อสายก็ไม่มีเข้ามาอยู่ที่นี่หน้าตาเฉย จักรินคงระแวงว่าเขาหวังอะไรจากท่าน ฤกษ์พึมพำคงระแวงเขาหวังสมบัติจากท่าน เทวัตได้ยินไม่ถนัดถามฤกษ์พูดว่าอะไร
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่สงสัยไปเรื่อยๆ” ฤกษ์พูดพลางหลบตาก้มหน้าก้มตานวดต้นคอให้เทวัต ไม่อยากให้เขาสงสัยว่าตัวเองคิดว่าเขาอาจเป็นลูกชายที่พลัดพรากจากกัน...
ขณะที่ปริศนาเรื่องลูกของฤกษ์ที่หายไปยี่สิบปีกว่า เริ่มคลี่คลาย วัชรีตกใจเมื่อรู้จากนันทิยาว่าเจอดาญ่าไปป้วนเปี้ยนที่บริษัทเอกธนกิจ แถมรังสรรค์ยังอยู่ในเหตุการณ์ ที่นันทิยากับดาญ่าจะมีเรื่องกันอีกด้วย
“พี่สรรค์ดันเผอิญมาเจอเข้าน่ะสิคะ แต่นันขู่
พี่สรรค์ไปแล้วว่าถ้ายังโง่ตามหลงนังดาญ่าอยู่ ไม่เลือกอยู่ข้างคุณน้าล่ะก็พี่สรรค์จะต้องเสียใจ”
เหิมอยากรู้ว่านันทิยารู้ไหมนังดาญ่ามันไปที่นั่นทำไม มันได้ขึ้นไปที่บริษัทหรือเปล่า เธอถามมันแล้วว่าแส่มาทำไม มันด่าสวนว่านี่บริษัทพ่อของมัน จะแวะมาแล้วใครจะทำไม ทั้งเหิมและวัชรีฟังแล้วเดือดดาล โดยเฉพาะวัชรีอยากจะตามไปตบปากดาญ่าให้รู้ดำ
รู้แดงไปเลย แล้วหันไปอ้อนเหิมไม่รู้มันขึ้นไปทำอะไร
ที่บริษัทหรือเปล่า
“ถ้าไปก็ต้องมีคนโทร.รายงานผมแล้วสิ เดี๋ยวโทร.เช็กก็รู้” เหิมหยิบมือถือขึ้นมาโทร. “ฮัลโหล นี่ผมเองนะ เมื่อวานลูกสาวคุณภิมุขได้เข้าไปบริษัทหรือเปล่า”
ooooooo
ในเวลาเดียวกัน ดาญ่า อารยะและเนตรสุดากำลังปรึกษาหารือกันถึงเรื่องที่ฝ่ายแรกได้หลักฐานเอาผิดเหิมเพิ่มเติมทำให้รู้ว่าบริษัทที่เขานำเงินของเอกธนกิจไปลงทุนเปิดบริษัทลูกที่อเมริกาหลายบริษัทกลายเป็นแค่บริษัทอุปโลกน์ ไม่มีตัวตนจริง บางแห่ง เป็นโรงนาร้าง บ้างก็เป็นแค่ห้องแถวเก่าๆ อารยะมองดาญ่าอย่างชื่นชม










