ตอนที่ 13
ดาญ่ามาไม่ได้เนื่องจากถูก รปภ.ห้างฯเข้ามาขัดจังหวะ เหิมเดินแยกออกมาคุยสายตามลำพัง
“ฮัลโหล เป็นไงจับมือพ่อแกเซ็นยกมรดกให้แกได้รึยัง”
จักรินไม่ตอบอะไรกลับย้อนถามเหิมว่าเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่า เหิมทั้งแปลกใจทั้งไม่พอใจโวยลั่นจะมาพูดเรื่องนี้ทำบ้าอะไร ตนอยากรู้แค่ว่าพ่อของเขาเซ็นมรดกให้หรือยัง จักรินก็ยังไม่ยอมตอบคำถามอีก แต่พูดเรื่องพรหมลิขิตที่ขีดเส้นไว้แล้วหน้าไหนก็หนีไม่พ้นไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานกว่ายี่สิบปี
“เฮ้ย แกพล่ามอะไรวะเนี่ยสาม ไอ้เรื่องยี่สิบกว่าปีนั่น ถ้าแกไม่พูด ฉันไม่พูด มันก็จะเป็นความลับตลอดไป”
ยิ่งได้คุยสายกับจักริน เหิมยิ่งรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับเขา บอกให้ไปรอที่โรงแรมที่พัก เดี๋ยวจะไปหา วางสายแล้วกลับไปหาวัชรีกับพวกที่นั่งรออยู่ที่ม้านั่งในห้างฯ บอกว่าขอแวะไปทำธุระก่อน ไว้เจอกันที่บ้าน แล้วผละจากไป รังสรรค์ถือโอกาสเดินแยกไปอีกทางหนึ่ง
ooooooo
เทวัตพาดาญ่ามานั่งกินข้าวที่ร้านอาหาร
เจ้าประจำบนดาดฟ้า ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ เขาชวนเธอคุยถึงฝนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ได้ความว่าดีขึ้นมาก สุขภาพจิตก็กลับมาเหมือนเดิมแล้ว เขา
ยิ้มเจื่อนสีหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ ดาญ่ายื่นมือไปจับมือเขาไว้
“เลิกรู้สึกผิดแทนอาเหิมได้แล้วค่ะ เขาเลี้ยงคุณมาแท้ๆยังทำกับคุณได้ลง นับประสาอะไรกับคนอื่น ไม่เอาแล้ว เครียด เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นดีกว่า”
“คุยเรื่องอะไรดีล่ะครับ”
ดาญ่านิ่งคิดอึดใจก่อนจะถามว่างานของเขา
เป็นอย่างไรบ้าง เทวัตลาออกจากงานแล้ว ตอนนี้รับงานเขียนแบบบ้านให้วิจารณ์ที่จะสร้างไว้รอลูกสาวคนเล็กให้เสร็จ ท่านจะได้หาผู้รับเหมามาก่อสร้างบ้านสักที
ดาญ่าเห็นสีหน้ามีความสุขของเขาเวลาที่พูดถึงท่านก็แซวเล่น ว่าพูดถึงท่านเศรษฐีเป็นไม่ได้ยิ้มหน้าบานตลอด
“จริงเหรอครับคงเพราะท่านดีกับผมมาก ทุกคน
ในบ้านก็เป็นกันเอง มันแปลกที่ผมมีความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านของตัวเองไม่ใช่บ้านของคนอื่นเลย แต่ผม
ก็ไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี...เอ่อ ผมกลัวว่าลูกหลานท่านจะคิดว่าผมเอาเปรียบที่เข้าไปอยู่บ้านท่านน่ะครับ” เทวัตนึกถึงที่โดนจักรินทำร้ายแต่ไม่ยอมเล่าให้ดาญ่าฟัง...
ในขณะเดียวกัน พี่สาวคุณหนูเรือนเล็กเล่าเรื่องจักรินทำร้ายเทวัตให้วิจารณ์ฟัง ฤกษ์เดินผ่านมาพอดีท่านร้องเรียกเขามาต่อว่าว่าเมื่อตอนกลางวันจักรินมาที่บ้านทำไมไม่บอก เขานึกว่าแสงดีกับบุญนำ
เรียนท่านแล้ว










