ตอนที่ 12
เย็นวันเดียวกันที่ร้านอาหารริมแม่น้ำในอยุธยา พิมพ์ชนกพาธนาคิมเดินเข้ามา พร้อมกับคอยบอกว่าทางเดินเป็นอย่างไร พื้นต่างระดับหรือเปล่า เขาเดินแบบไม่ค่อยมั่นใจนักเพราะไม่เคยถือไม้เท้าขาวของคนตาบอดออกสื่อ เธอเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเขาถามว่ามีอะไรหรือเปล่า
“คุณแน่ใจนะว่าจะไม่อายคนอื่นที่ควงคน...เอ่อ... พิการอย่างผมมาดินเนอร์”
“ทำไมต้องอายด้วยคะ คนพิการไม่ใช่คนร้ายไม่ใช่คนเลวสักหน่อย ไปค่ะ”
แม้กระนั้นธนาคิมก็ไม่สบายใจอยู่ดีกลัวคนอื่นจะมองเป็นตัวประหลาด พิมพ์ชนกตัดสินใจจับมือเขาไว้
“ทุกเรื่องในชีวิตคนเรามันจะยากแค่ครั้งแรกเท่านั้นค่ะ หลังจากนั้นทุกอย่างจะง่ายขึ้นเชื่อใจฉันนะคะ” พิมพ์ชนกว่าแล้วจับมือธนาคิมมาจับที่แขนตัวเองเดินนำทางไป “ฉันอยู่ตรงนี้ค่ะ เรามาเดินไปด้วยกันนะคะ”
ทั้งคู่ค่อยๆเดินฝ่าผู้คนเข้าไปในร้านอาหาร บางคนในร้านก็สนใจมอง บางคนไม่สนใจคิดว่าเป็นเรื่องปกติมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มองด้วยรอยยิ้มและสายตาชื่นชม เธอพาเขามานั่งที่โต๊ะด้านในสุด จัดแจงให้เขานั่งเรียบร้อยตัวเองถึงได้ลงนั่ง บริกรเข้ามาถามว่าจะรับอะไรดี
“ขอน้ำเปล่าก่อนแล้วกันค่ะ” สั่งเสร็จพิมพ์ชนกหันไปทางธนาคิม “ฉันจะอ่านเมนูให้ฟัง คุณอยากกินอะไรสั่งเลยนะคะ” เธอเปิดเมนูแล้วเลือกอ่านรายการอาหารที่ดูน่ากินให้เขาฟัง ธนาคิมรู้สึกดีที่เธอไม่อายหรือรังเกียจที่มากับคนตาบอดอย่างเขา...
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ พิมพ์ชนกจับมือธนาคิมมาบอกว่าอะไรวางอยู่ตำแหน่งไหน แล้วให้เขาค่อยๆตักอาหารกินเอง ช่วยเหลือตัวเองเหมือนตอนอยู่บ้าน การที่เขาสามารถดูแลตัวเองได้ทำให้ความเครียดที่ต้องออกมาเจอผู้คนลดลงไปเกือบหมด ทั้งคู่กินอาหารไปคุยกันไปอย่างมีความสุข...
เขมจิราไม่ได้เก็บคำตักเตือนของพ่อเอามาปรับปรุงตัวเองแม้แต่น้อย พอฟ้ามืดไฟถนนเปิด เธอแต่งตัวสวยไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ดื่มกินอย่างสนุกสนาน พอเมาได้ที่ก็กอดนัวเนียกับผู้ชายที่เจอในนั้น
อีกมุมหนึ่งของผับ เอกรัฐพาชาคริตลูกค้าของบริษัทมาเลี้ยงขอบคุณ ชาคริตรู้ว่าโต๊ะอยู่ไหนก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน เอกรัฐมองไปรอบๆสถานที่เพื่อดูคนโน้นคนนี้ เจอเขมจิรากำลังเต้นอย่างเร่าร้อนกับหนุ่มคนหนึ่งอยู่ อึ้งกับท่าทางยั่วสวาทของเธอ ครั้นเพลงจบเขมจิราขอตัวหนุ่มคู่ควงไปเข้าห้องน้ำก่อน










