ตอนที่ 12
เอมอรดึงพิมพ์ชนกมากอดขอบใจอีกครั้งที่ช่วยดูแลธนาคิมให้ ส่งท่านขึ้นรถเสร็จพิมพ์ชนกขึ้นไปดูธนาคิมที่ห้อง พบแต่ความว่างเปล่าไม่เห็นแม้เงาของเขาก็ใจไม่ดี เดินตามหาจนทั่วบ้านก็ไม่เจอ รีบวิ่งไปดูนอกบ้าน เจอเขากำลังหัดใช้ไม้เท้าขาวอยู่ที่สวนข้างบ้านถึงกับถอนใจโล่งอก นี่เขายอมหัดใช้ไม้เท้าขาวแล้วหรือ
“ก็ผมไม่อยากเป็นภาระใคร คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าไม้เท้าขาวเป็นประโยชน์มาก”
“ค่ะ ถึงอย่างไรในระหว่างนี้คุณจะอยู่แต่ในบ้านตลอดไปไม่ได้ มันไม่ดีต่อสุขภาพจิตของคุณ ฉันอยากให้คุณใช้ชีวิตปกตินอกจากออกไปหาหมอแล้ว ก็ออกไปเที่ยวไปทำอะไรนอกบ้านบ้าง”
“อืม...ก็จริง ความพิการต้องไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิตของผม”
พิมพ์ชนกดีใจที่ธนาคิมคิดได้แบบนั้น เขายกความดีความชอบนี้ให้เธอเพราะเธอเป็นคนทำให้เขาคิดได้ ขอบคุณเธอจริงๆ พิมพ์ชนกเห็นเขายอมใช้ไม้เท้าขาวแล้วจึงอาสาช่วยหัดให้ เราจะได้ฝึกไปด้วยกัน ได้มาต่างจังหวัดทั้งทีเธออยากเที่ยวบ้าง แล้วชวนเขาไปเที่ยวกัน ธนาคิมกระเซ้าที่อยู่ช่วยเขาเพราะแบบนี้นี่เอง เธอหัวเราะสดใส พลอยทำให้เขาผ่อนคลายไปด้วย จากนั้นเธอเริ่มสอนการใช้ไม้เท้าให้ฝึกเดินตั้งแต่เช้ายันสาย พิมพ์ชนกถึงพาธนาคิมเข้าไปนั่งพักในบ้าน แล้วจะไปหาน้ำดื่มมาให้ เขาคว้ามือเธอไว้ค่อยๆเอามือจับใบหน้าเธอ พิมพ์ชนกตกใจถามว่าจะทำอะไรแล้วเบือนหน้าหนี
“เดี๋ยวสิคุณ อยู่นิ่งๆผมกำลังบันทึกหน้าคุณอยู่ ตอนนี้ผมยังจำหน้าคุณได้อยู่นะ แต่ผมกลัวว่าถ้าผมมองไม่เห็นหน้าคุณนานกว่านี้อีกนิดผมจะลืม ขอบันทึกหน้าคุณไว้ได้ไหม ผมไม่อยากลืม”
หญิงสาวอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะจับมือเขาทั้งสองข้างมาวางบนใบหน้าเธอ ปล่อยให้เขาสัมผัสใบหน้าตามชอบใจ สัมผัสอ่อนโยนไปทั่วใบหน้าทำเอาเธอหวั่นไหวใจสั่น ครั้นพอเขาสัมผัสริมฝีปาก
“ริมฝีปากนี้ผมจำได้...”
ทั้งคู่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ ภาพในอดีตตอนเขาจูบเธอแวบขึ้นมาในความคิดของทั้งสองคน ธนาคิมเหมือนต้องมนตร์สะกดค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปจะจูบ เธอเคลิ้มตามหลับตาพริ้มรอรับจุมพิตจากเขา แต่ทันใดนั้น เธอตั้งสติได้ลุกพรวดขึ้น ขอตัวไปเอาน้ำมาให้ดื่มแล้วจ้ำพรวดๆไปเลย เขามองตามเสียงฝีเท้าเธอที่เดินจากไป สับสนในใจไม่รู้ว่าเธอรู้สึกกับเขาอย่างไรกันแน่...
ฝ่ายพิมพ์ชนกไปยืนหายใจหอบเหนื่อยอยู่ในครัว รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัวหาน้ำมาดื่มเกือบหมดขวด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเป็นอะไรไป
ooooooo










