ตอนที่ 11
ที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วย ธนาคิมนอนอยู่บนเตียงมีผ้าปิดตาทั้งสองข้าง หมอและพยาบาลกำลังช่วยกันตรวจดูอาการหลังผ่าตัดโดยมีเอมอร ทิพย์อาภาและนิติยืนดูอยู่ พิมพ์ชนกเดินเข้ามากับเอกรัฐเห็นสภาพคนป่วย
ถึงกับพูดไม่ออก เขมจิราตามมาเป็นคนสุดท้ายอึ้งไปเช่นกันกับสภาพของเขา เอมอรเห็นหมออ่านชาร์ตคนป่วยเสร็จรีบถามว่าลูกของตนเป็นอย่างไรบ้าง
“คนไข้เป็นโรคเส้นประสาทตาอักเสบจากการกระแทกคงรู้กันแล้ว ตอนนี้หมอผ่าตัดนำกระดูกที่กดทับนั้นออกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือหมอจะให้ยาสเตียรอยด์ทางเส้นเลือดในปริมาณสูงเพื่อลดการอักเสบของเส้นประสาทครับ หลังจากนั้นก็จะนัดมาตรวจอาการเรื่อยๆเพื่อตรวจการมองเห็นว่าดีขึ้นไหม”
“หมายความว่าถึงผ่าตัดแล้วก็ยังไม่หายร้อยเปอร์เซ็นต์เหรอคะ” ทิพย์อาภาสีหน้าไม่สบายใจ เขมจิราโพล่งขึ้นทันที ถ้าเป็นแบบนี้พี่คิมก็มีโอกาสตาบอดได้ นิติตกใจที่ลูกพูดแบบนั้นต้องปรามให้ระวังคำพูดหน่อย
“ก็เขมอยากรู้นี่คะ”
“ผมก็อยากรู้เหมือนกัน บอกผมเถอะครับหมอ” ธนาคิมอ้อนวอน
“หมอไม่อยากให้วิตกกังวลกันไปก่อนเพราะคุณธนาคิมถูกปฐมพยาบาลอย่างถูกต้องและรักษาทันเวลา เพราะฉะนั้นหมอเชื่อว่าโอกาสหายก็จะมีมากขึ้น เหมือนกับหลายๆเคส”
ธนาคิมสรุปเองเสร็จสรรพ ถึงจะผ่าตัดแล้ว แต่ก็ต้องมาลุ้นอีกว่าเขาจะกลายเป็นคนตาบอดหรือเปล่าใช่ไหม เอมอรน้ำตาซึมสงสารลูกจับใจ ทิพย์อาภาต้องปลอบไม่ให้คิดมาก หมอบอกแล้วว่าเขาได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกต้องโอกาสหายมีมาก พิมพ์ชนกช่วยพูดให้กำลังใจอีกแรงหนึ่ง ธนาคิมใจคอไม่ดีควานมือร้องหาแม่ เอมอรรีบเข้าไปจับมือลูกไว้ เขาคร่ำครวญว่าไม่อยากตาบอด
“แม่ก็ไม่ยอม คิมของแม่ต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม แม่จะทำทุกอย่างให้คิมหาย ไม่ต้องกลัวนะลูก” เอมอรว่าแล้วดึงลูกมากอด ทุกคนมองสองแม่ลูกแล้วน้ำตาซึม เอกรัฐช่วยพูดเป็นปลอบใจอย่าเพิ่งกลัวไปก่อน ทำใจให้สบายเชื่อหมอเข้าไว้
“หมอว่าตอนนี้เราควรให้คนไข้พักผ่อนก่อนนะครับ”
นิติที่ลืมความโกรธธนาคิมไปหมดเพราะเขาเป็นคนช่วยพิมพ์ชนกเอาไว้เห็นด้วยกับหมอ บอกให้ธนาคิมพักมากๆ อย่าเพิ่งคิดอะไร พยาบาลกับเอมอรช่วยกันประคองธนาคิมลงนอน
ooooooo
เพื่อให้คนป่วยได้พัก ทิพย์อาภาพยุงเอมอรมานั่งที่เก้าอี้หน้าห้องพักฟื้น คนอื่นๆ ทยอยตามออกมา ทิพย์อาภาปลอบเอมอรว่าตอนนี้มีพยาบาลดูแลตาคิมอยู่แล้วให้เธอกลับไปนอนพักสักงีบ










