ตอนที่ 1
วันรุ่งขึ้นสวรสเรียกน้ำหนึ่งมาตำหนิอย่างรุนแรง ที่ตัดสินใจให้ยดาไปสัมภาษณ์กาลรุจิโดยพลการ ถึงจะได้งานมาแต่การที่น้ำหนึ่งตัดสินใจเองโดยไม่รายงานให้เธอทราบถือเป็นการผิดมารยาทอย่างมาก สวรสคาดโทษน้ำหนึ่งว่า ถ้ายดาเขียนรายงานการสัมภาษณ์ออกมาไม่ดีเธอต้องรับผิดชอบ และควรจะรู้ตัวว่าต้องทำอย่างไร
หญิงสาวขอโทษสวรสแล้วเดินหน้ามุ่ยออกมานั่งทำงานอย่างซังกะตาย จนมนัสวีเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกันและเป็นหัวหน้าฝ่ายขายมาคุยด้วย ทำให้น้ำหนึ่งค่อยสบายใจขึ้นมาบ้าง แต่วันต่อมาบรรยากาศในที่ทำงานยิ่งแย่ลงไปอีกสำหรับความรู้สึกของน้ำหนึ่ง เมื่อสวรสชมยดาต่อหน้าทุกคนที่กองบรรณาธิการว่าเขียนบทสัมภาษณ์กาลรุจิออกมาได้ดีมาก แถมยังพูดเหน็บแนมน้ำหนึ่งให้เจ็บใจอีก
น้ำหนึ่งแสดงความยินดีกับยดาอย่างจริงใจ แม้จะอดน้อยใจไม่ได้ว่าการที่ SEASON มีผลงานได้สัมภาษณ์กาลรุจิส่วนหนึ่งก็เป็นความสามารถของเธอเช่นกัน ที่มีเพื่อนสนิทของมารดาคือจำรัสช่วยพูดให้ ถ้าไม่ใช่จำรัสแล้วคงไม่มีใครจะได้พบตัวกาลรุจิแน่นอน แต่เมื่อไม่มีใครคิดถึงน้ำหนึ่งได้แต่นั่งเบื่อโลกอยู่คนเดียว และยังทำใจไม่ได้
เย็นวันนั้นเมื่อมนัสวีชวนเธอออกไปเที่ยวที่ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง โดยมีพงศกรกราฟิกดีไซเนอร์หนุ่มเพื่อนของเธอไปด้วย น้ำหนึ่งจึงปฏิเสธและตั้งใจขับรถไปคืนทรรศิกา บางทีการได้คุยกับมารดาอาจจะรู้สึกดีขึ้นก็ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าเธอทะเลาะกับมารดาอย่างรุนแรงเมื่อได้รู้โดยบังเอิญว่าทรรศิกากับจำรัสมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินไปกว่าความเป็นเพื่อนสนิทเสียแล้ว
คำพูดตัดพ้อร้ายๆที่น้ำหนึ่งต่อว่าทรรศิกา ทำให้ทรรศิกาต้องตบหน้าลูกสาวเพื่อเตือนสติ แต่น้ำหนึ่งไม่เข้าใจ เธอผลุนผลันออกจากที่นั่นทั้งน้ำตานองหน้า ได้ยินเสียงจำรัสกับทรรศิกาเรียก แต่ความเสียใจ น้อยใจ และผิดหวังมันมากเสียจนเธอไม่อยากหันหลังกลับไปที่นั่นอีก
น้ำหนึ่งเดินแกมวิ่งไปตามถนน ปาดน้ำตาไปตลอดทางจนมาถึงหน้าร้านอาหารซีแซ่บเว่อร์ที่มีมาสคอตรูปหมึกสีชมพูสด เด็กแถวนั้นบอกว่านี่คือเจ้าแม่หมึกซีซ่าที่ศักดิ์สิทธิ์มาก แต่น้ำหนึ่งไม่อยากจะเชื่อจึงไม่ได้ให้ความสนใจ
ขณะดูอะไรเพลินๆอยู่แถวนั้น น้ำหนึ่งสะดุ้งสุดตัวเมื่ออาม่าหยกย่าของเธอสะกิดเรียกชื่อแล้วถามว่ามาทำอะไรที่นี่ น้ำหนึ่งยกมือลูบแก้มข้างที่โดนทรรศิกาตบ น้ำตาเริ่มกลบตาอีกครั้ง แต่ไม่ทันได้พูดอะไรอาม่าหยกก็ลูบแขนเธอเบาๆเหมือนจะปลอบ










