มนตร์กาลบันดาลรัก
ตอนที่ 1
เสียงโทรศัพท์มือถืออ๋อดังขัดจังหวะ แบมหยิบมาเช็กทันที พอรู้เห็นว่าเป็นลูกชายก็หายห่วงและให้อ๋อออกไปคุยข้างนอกเพราะในร้านนี้เสียงค่อนข้างดัง
“ตั้งสามปี อะไรๆเปลี่ยนไปเยอะ” น้ำหนึ่งรำพึงออกมาหลังจากอ๋อลุกไปแล้ว แบมได้ยินแต่ไม่ถนัด ถามว่า
“แกพูดอะไรของแก”
“ก็พูดไปเรื่อยๆ เออ พี่แบมรู้จักร้านซีแซ่บเว่อร์มั้ย”
“เคยได้ยินชื่อตั้งนานมาแล้ว แต่ไม่เคยไป มีไรเหรอ”
“เปล่า”
“แล้วดันถามขึ้นมาทำไม”
น้ำหนึ่งแอบจ๋อย...แต่พอกลับเข้าออฟฟิศเห็นหนุ่มหล่อขาวตี๋ก็ดี๊ด๊าตาพองก๋า มองตามเหลียวหลังจนเดินชนกระจกดังโครม
“อะไรวะ มองตามผู้ชายจนหัวโขกประตูเลยเรอะ เจ๊จะให้อ๋อไปฟ้องอาจารย์เอ๋ย”
“เอ๋ยมันได้ขำตาย” อ๋อกับแบมพยักพเยิดเออออไปด้วยกัน แต่น้ำหนึ่งแคร์เสียที่ไหน บอกว่าฟ้องก็ฟ้องไป
ooooooo
ชายหนุ่มตี๋หล่อคนนั้นชื่อชาลี สาวๆในออฟฟิศต่างชื่นชมในความหล่อดูดีมีชาติตระกูล โดยเฉพาะน้ำหนึ่งหรือเดียวนั้นเธอชื่นชอบหนุ่มสไตล์นี้เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นสเปกหนุ่มในฝันเลยทีเดียว
ชาลีเป็นหัวหน้าฝ่ายขายที่โรงพยาบาลเอกชนซึ่งรู้จักกับแบมเป็นอย่างดี เดียวเลยคิดว่าไม่ยากที่จะทำความรู้จักกับเขา แต่วันนี้เธอเพียงเห็นเขาแวบๆ ยังไม่ได้มีการทักทาย กอปรกับพอดีพุ่มมาบอกว่าสวรสเรียกพบ เธอจึงต้องรีบเข้าไปพบยัยปิศาจ
สวรสเรียกเดียวมาสั่งงานชิ้นใหม่ให้ไปสัมภาษณ์เขมินทร์ ช่างภาพคนไทยที่เคยทำงานที่ซีซั่น ก่อนจะลาออกแล้วไปอยู่อเมริกา ทำงานจนมีชื่อเสียงระดับโลกมาลงในคอลัมน์ดล ถ้าทำได้เดียวจะได้เป็นบรรณาธิการนิตยสารใหม่ชื่อสปริง
ยิ้มรู้เรื่องนี้จากพุ่มก็อิจฉาตาร้อน แต่พุ่มบอกว่าเขมินทร์สัมภาษณ์ยากมาก ยิ้มเลยข้องใจว่าทำไมไม่ให้ตนไป เพราะตนเก่งกว่าเดียวตั้งเยอะ
“เพราะเขาเป็นอาเป็นหลานสะใภ้กันมั้งคะคุณน้อง”
“ยิ้มจะเอาชนะยัยเดียวนั่นให้ได้”
“เอาเลย พี่สนับสนุนเต็มที่ น้องยิ้มต้องการให้พี่ช่วยอะไรก็บอก”
“ขอบคุณค่ะพี่พุ่ม”
วันเดียวกันนี้ บังคม เจ้าของและบรรณาธิการบริหารเรียกประชุมบรรณาธิการทุกคนของนิตยสารในเครือ หัวข้อการประชุมนอกจากเรื่องสรุปยอดขายแล้วยังมีเรื่องการพิจารณาหาตัวบรรณาธิการนิตยสารสปริงที่จะเปิดใหม่ แตกไลน์ออกมาจากซีซั่น
