ตอนที่ 11
เนตรสุดาวิ่งปรู๊ดออกจากลิฟต์ได้พุ่งไปที่โต๊ะทำงานตัวเองทำเป็นหยิบแฟ้มเอกสาร บอกกับอำนวยว่าจะรีบเอาเอกสารไปวางที่ห้องทำงานรังสรรค์ แล้ววิ่งจู๊ดไป เมื่อเข้าไปในห้องทำงานรังสรรค์ เนตรสุดาเอาเอกสารที่ขโมยไปเก็บไว้ที่เดิม จัดทุกอย่างให้เข้าท่ี จึงเผ่นออกจากห้อง
ครั้นกลับมายังโต๊ะทำงานตัวเอง เนตรสุดาเจอรังสรรค์กำลังซักถามอำนวยว่าติดต่อคุณภัทศาหรือดาญ่าได้หรือยัง อำนวยส่ายหน้ายังติดต่อไม่ได้ เนตรสุดาชิงรายงานตัดหน้า
“คุณน้องภัทศาโทร.มาบอกเนตรแล้วค่ะว่าไม่ค่อยสบาย แต่ไม่ได้บอกว่าอยู่ที่ไหน”
“แล้วทำไมไม่ถาม”
“ดูเหมือนว่ามือถือคุณน้องเขาจะแบตฯหมดพอดีน่ะค่ะ แต่คุณน้องบอกว่าแล้วจะโทร.หาคุณรังสรรค์ค่ะ”
รังสรรค์ไม่ซักอะไรอีกมองมือถือตัวเองพลางเดินร้อนใจกลับห้องทำงาน อำนวยนินทาไล่หลังว่าเจ้านายอาการหนักขึ้นทุกวัน หลงยัยภัทศาคนนี้หนักกว่าสาวๆทุกคนที่เคยพามาทำงานที่นี่
“ก็แหงล่ะ” เนตรสุดาเบ้ปากแล้วเดินกลับโต๊ะ อำนวยมองตามงงๆว่าเธอพูดเรื่องอะไร...
วัชรีเห็นเหิมกลับถึงบ้านไม่พูดไม่จาเดินสีหน้าบอกบุญไม่รับตรงไปที่ห้องทำงาน เธอรีบเดินตามเข้ามาโดยไม่ลืมปิดประตูตามหลัง เขาหันมาถามเธอว่าเทวัตไปไหน เธอได้ยินนันทิยาบอกว่าเอาแบบบ้านไปส่งลูกค้า เขาเหวี่ยงกระเป๋าเอกสารระบายอารมณ์ เธอแปลกใจอารมณ์เสียอะไรขนาดนั้น มีอะไรหรือเปล่า
“ไอ้เทวัต ไอ้ลูกกาฝากมันกำลังจะทำให้ฉันหลังชนฝาน่ะสิ”
“ไอ้คำว่าลูกกาฝากของพี่มันฟังดูแปลกๆชอบกลเหมือนกับเทวัตไม่ใช่ลูกญาติโยมอะไรของพี่เลย”
เหิมยอมรับว่ามันไม่ใช่ญาติโยมของตน มันเป็นเด็กที่เกือบถูกคนฆ่าแล้วโยนทิ้งเหมือนหมาข้างถนน วัชรีตาโตตกใจ แล้วนี่เขาไปเอามาเลี้ยงทำไม เขาดันไปอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย ญาติของมันยื่นข้อเสนอถ้าเขาเอามันมาเลี้ยงจะส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้อย่างดี ตอนนั้นเขากำลังร้อนเงินก็เลยต้องเอามันมาเลี้ยง ไม่ได้มีความผูกพันอะไรกับมันเลย วัชรีซักอีกแล้วพ่อแม่ของเทวัตไปไหน เหิมบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าดันไปอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย










