ตอนที่ 11
“ไม่เจอครับ” ฤกษ์ส่ายหน้าน้ำตาคลอ ครั้นเงยหน้าขึ้นมองเทวัต เห็นจักรินเดินมาแต่ไกลความแค้นแล่นขึ้น จุกอก แต่ต้องข่มใจไว้ รีบตัดบท “เอ่อ กินข้าวกันเถอะครับ เรื่องผมเอาไว้ก่อนเดี๋ยวกับข้าวจะเย็นซะหมด”
จักรินเดินมาถึงห้องอาหารเห็นเทวัตนั่งร่วมโต๊ะอยู่กับพ่อก็เลยไม่ได้สนใจฤกษ์ที่แอบหลบออกไป วิจารณ์แปลกใจว่าเขามาที่นี่อีกทำไม ที่ที่เราจะเจอกันมีแต่ในศาลเท่านั้น จักรินพยายามหาเรื่องเทวัตเพราะ
เกลียดเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้วิจารณ์ไม่พอใจ ไล่ ตะเพิดไปให้พ้น เขาโมโหที่ถูกไล่ตบโต๊ะดังปัง เทวัตลุกพรวดขวางหน้าไว้ ขอร้องจักรินให้กลับไป ท่านยิ่งไม่ค่อยสบายอยู่ อย่ามีเรื่องทำให้ท่านต้องเครียดอีกเลย
ลูกทรพีขย้ำคอเสื้อเทวัตไว้ไล่ตะเพิดไปจากบ้านของตน วิจารณ์คว้าไม้เท้าฟาดมือลูกถึงกับร้องเสียงหลง
“ที่นี่ไม่ใช่บ้านแกอีกแล้ว ถ้ายังดื้อด้าน ฉันจะโทร.แจ้งตำรวจว่าแกพยายามฆ่าฉัน พ่อบังเกิดเกล้าของแก”
ooooooo
จักรินเดินฮึดฮัดออกจากห้องอาหาร มาหยุดยืนตรงทางเดิน จับมือข้างที่ถูกพ่อใช้ไม้เท้าฟาดเหลียวกลับไปมองที่ห้องอาหารอีกครั้งไม่อยากเชื่อว่า
โชคชะตาพาให้หลานกับตามาเจอกันจนได้ อารามโกรธแค้นเขาเดินไปขึ้นรถโดยไม่ทันสังเกตเห็น
ฤกษ์แอบตามมาสีหน้าอาฆาตแค้นอยากจะฉีกเนื้อเขาออกเป็นชิ้นๆ...
ที่โต๊ะอาหาร วิจารณ์นั่งน้ำตาซึมไม่พูดไม่จา
เทวัตเป็นห่วงมาก หากท่านมีอะไรอยากระบายตนยินดีรับฟังเผื่อจะสบายใจขึ้น ท่านหมดคำพูดแล้ว ชีวิตในบั้นปลายของคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว นอกจากสมบัติชิ้นสุดท้ายที่สร้างมากับมือ นั่นคือลูก
“พ่อแม่ไม่ขออะไรมาก แค่ขอให้ลูกดูแลก่อนที่เราจะจากโลกนี้ไป แต่ฉันคงหมดหวัง”
เทวัตพูดอะไรไม่ออกได้แค่ยื่นมือไปจับแขนวิจารณ์เป็นทำนองปลอบโยน ทันทีที่ได้รับการสัมผัสจากเขา ท่านรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด เอื้อมมือไปแตะมือเขาแทนคำขอบคุณ...
ด้านอารยะกับเนตรสุดาอยากให้ดาญ่ากับเทวัตได้ปรับความเข้าใจกันจึงโทร.ไปนัดเทวัตให้ไปเจอกันที่บ้านสวนของตนเอง อ้างว่ามีเรื่องของเหิมจะคุยด้วยโดยเกริ่นหัวเรื่องไว้แค่ว่าเหิมยักยอกเงินที่บริษัทเอกธนกิจมาเปิดบริษัทใหม่ของตัวเอง เทวัตหน้าตาเคร่งเครียดขึ้นมาทันที แล้วนี่ดาญ่ารู้เรื่องนี้หรือยัง
“ทำไมจะไม่รู้ ก็ตอนนี้ฉันมาหาคุณดาญ่าที่โรงพยาบาลตามที่แกสั่งไง แล้วข้อมูลนี่ฉันฟันธงได้เลยว่าพ่อแกฉ้อโกงเงินบริษัทไปก็มาจากหลักฐานที่คุณ
ดาญ่ามีอยู่ในมือนั่นแหละ”
“แล้วคุณดาญ่าว่ายังไงบ้าง”










