ตอนที่ 15
ม้าเหล็กปากแข็งว่าตนไม่รู้ วศินถามว่าคิดเหรอว่าปกป้องคุณสุแบบนี้แล้วเขาจะไว้ชีวิตแกจริงๆ ม้าเหล็กชะงัก วศินหว่านล้อมว่า
“ถ้าแกรู้จักคุณสุดาวรรณดีพอ แกก็คงจะรู้นะว่าเขาจะหาทางเอาตัวรอดด้วยวิธีไหน ถ้าแกไม่อยากถูกคุณสุฆ่าตายก็ร่วมมือกับฉัน” อินทัชเสริมว่าถ้าร่วมมือช่วยเหลือตำรวจก็ได้รับการลดหย่อนโทษ วศินย้ำในตอนท้ายก่อนเดินไปว่า “คิดดูให้ดีนะม้าเหล็ก”
อินทัชยื่นนามบัตรให้ม้าเหล็กแล้วตามวศินไป ม้าเหล็กมองตามทั้งสองอย่างครุ่นคิด ในที่สุดก็ตัดสินใจโทร.ไปตามเบอร์ในนามบัตร “ฮัลโหล...ถ้าเจ้านายคุณสัญญาว่าช่วยผมได้จริงๆ ผมจะร่วมมือด้วย”
ooooooo
สุดาวรรณแค้นแทบกระอักเลือดเมื่อรู้ว่าถูกม้าเหล็กหักหลัง ม้าเหล็กบอกว่าเพราะตนรู้ว่าคุณสุจะทำแบบนี้กับตน ตำรวจก็เกลี้ยกล่อมให้มอบตัวเสียเพราะหนีไม่พ้นหรอก
“ไม่มีทาง!!!”
สุดาวรรณเสียงกร้าวยิงใส่ตำรวจทันที ฉวยโอกาสขณะที่ทุกคนโดดหลบกระสุนวิ่งหนีไป ตำรวจจะยิง แต่วศินรีบห้ามไว้ ปล่อยสุดาวรรณหนีไปได้ ตำรวจจึงวิ่งตามไป อีกด้านก็วิทยุสกัดรถต้องสงสัย
ม้าเหล็กถูกตำรวจควบคุมตัวมาเจอวศินกับอินทัช เขาเตือนก่อนถูกตำรวจนำตัวไปว่า
“คุณสุเป็นคนน่ากลัวกว่าที่พวกคุณคิด ระวังตัวไว้ด้วยแล้วกัน”
อ้นเดินหนีอ้อมายืนดูรูปพ่ออยู่ในห้อง ก็ได้รับโทรศัพท์จากสุดาวรรณที่กำลังขับรถหนีตำรวจมาอย่างเร็ว พูดกระหืดกระหอบตื่นตระหนก
“อ้นช่วยแม่ด้วย...ช่วยแม่ด้วย!!” อ้นตกใจถามแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น “ไอ้วศินมันวางแผนให้ตำรวจจับแม่ ตอนนี้ตำรวจรู้เรื่องหมดแล้ว”
อ้นตกใจมาก เวลาเดียวกันอ้อที่คุยโทรศัพท์กับวศินก็ตกใจไม่แพ้กันถามวศินว่าคุณแม่ฆ่าคุณพ่อจริงๆเหรอ? วศินบอกว่าจริงและตอนนี้ม้าเหล็กคนของคุณสุให้การรับสารภาพหมดแล้ว
อ้อแทบหมดแรงถามว่าทำไมแม่ต้องทำ
แบบนี้ด้วย
“น้องอ้อตั้งสติไว้ครับ ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้คุณสุมอบตัวก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้ ถ้าน้องอ้อติดต่อคุณแม่ได้ ต้องช่วยกันนะครับ”
พออ้อวางสายจากวศินก็เห็นอ้นลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาอย่างรีบร้อน ถามว่าพี่อ้นจะไปไหน อ้นบอกว่าไม่มีอะไร
“ไม่จริง!! พี่วศินโทร.มาบอกอ้อหมดแล้วว่าคุณแม่เป็นฆาตกรฆ่าคุณพ่อ ตอนนี้ตำรวจกำลังตามจับตัวอยู่ พี่อ้นกำลังจะไปหาคุณแม่ใช่ไหม”
“ไม่ใช่!!” อ้นเสียงดังอย่างมีพิรุธ
อ้อบอกอ้นว่าเราต้องช่วยกันพูดให้แม่มอบตัว อ้นเสียงแข็งว่าตนจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรแม่ ตนจะปกป้องแม่ให้ถึงที่สุด อ้อติงว่านี่มันเป็นการปกป้องแม่แบบผิดๆ
“จะผิดจะถูกมันก็เป็นวิธีของพี่ ไม่เกี่ยวกับอ้อ” อ้นตัดบทเสียงแข็งแล้วเดินไปเลย อ้อพยายามตะโกนเรียก พวงมณีได้ยินเสียงดังก็วิ่งลงมาถามอ้อว่าเกิดอะไรขึ้น
“น้ามณี...” อ้อโผกอดพวงมณี ทั้งพวงมณีกับอาร์ตต่างงงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
อ้อโทร.ไปเล่าให้หนูดีฟัง หนูดีบอกอ้อให้ทำใจดีๆไว้ ไม่จำเป็นตำรวจเขาไม่ทำอะไรรุนแรงหรอก บอกว่าเดี๋ยวหนูดีจะไปหา พอดีภัสสรมาได้ยินถามว่าเกิดอะไรขึ้นหรือ หนูดีบอกว่าคุณป้าสุเป็นคนฆ่า
คุณลุงสรวิชญ์ แล้วขอแม่ไปอยู่เป็นเพื่อนอ้อก่อน
ภัสสรตกใจมาก พอหนูดีออกไปก็พึมพำ “อยู่กินกันจนมีลูกโตขนาดนี้ทำไมถึงได้ฆ่ากันได้ ไม่เข้าใจเลย”
ooooooo
วศินกับอินทัชยังอยู่กับผู้กองที่โรงพัก มีตำรวจเข้ามารายงานว่าสายตรวจวิทยุรายงานว่าเจอรถคุณสุดาวรรณที่ใช้หลบหนีจอดทิ้งไว้ในซอยเปลี่ยวข้างทาง
ผู้กองที่รับรายงานบอกว่าแสดงว่าต้องมีคนมาช่วยคุณสุดาวรรณ ไม่อย่างนั้นคงหนีไปไม่ได้แบบนี้ สั่งตำรวจที่มารายงานให้ส่งข่าวตามตะเข็บชายแดน คาดว่าคุณสุดาวรรณต้องหาทาง ออกนอกประเทศแน่
ขณะเดียวกัน ทีวีก็รายงานข่าวด่วนว่า “ตอนนี้ทางตำรวจได้ทราบตัวคนร้ายตัวจริงที่ฆ่าคุณสรวิชญ์นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมชื่อดังแล้ว และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือคุณสุดาวรรณภรรยาของคุณสรวิชญ์เอง ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างหลบหนี”
อังกาบดูข่าวนี้แล้วถอนใจ “ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ก็ไม่มีใครหนีบาปกรรมพ้นได้หรอกสุดาวรรณ”
เป็นเวลาที่อ้นกำลังพาสุดาวรรณที่ใส่วิก ใส่หมวกและแว่นอำพรางใบหน้านั่งอยู่ในรถที่บ่ายหน้าไปเชียงราย...
ส่วนที่วัด แขกที่มาร่วมงานศพของสรวิชญ์กำลังเดินขึ้นเมรุไปวางดอกไม้จันทน์กัน
อังกาบพูดกับสรวิชญ์ขณะวางดอกไม้จันทน์ว่า
“พี่วิชญ์ เราเพิ่งเข้าใจกันไม่เท่าไหร่ก็ต้องพรากจากกันแล้ว อโหสิกรรมแก่กันนะคะพี่วิชญ์ ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้วนะคะ”
หนูดีประคองอ้อขึ้นเมรุ อ้อน้ำตาไหลขอพ่อว่า “อโหสิกรรมให้แม่ด้วยนะคะพ่อ”
วศินเดินมามองรูปสรวิชญ์คิดถึงความเชื่อมั่นของพ่อที่พูดก่อนจะจากไปที่ว่า “พ่อเชื่อว่าลูกจะดูแลบริษัทต่อจากพ่อและให้ความยุติธรรมกับทุกคนในครอบครัวได้ ถ้าพ่อไม่อยู่ดูแลแทนพ่อด้วย” คิดแล้วบอกกับรูปพ่อว่า
“ไม่ต้องห่วงนะครับพ่อ ผมจะดูแลทุกคนตามที่สัญญาไว้กับพ่อ”
พวงมณีร้องไห้สะอึกสะอื้นกว่าใครจนอาร์ตต้องคอยปลอบ
ทุกคนมองควันที่ลอยจากปล่องเมรุเหมือนส่งสรวิชญ์เป็นครั้งสุดท้าย...










