ตอนที่ 15
เมื่อตัดสินใจไม่ตอบแล้ว ก็นึกถึงที่วศินเคยกุมมือขอโอกาสตนอีกครั้ง ครั้งเดียวแล้วจะไม่ขออะไรอีกเลย เวลานั้นตนตัดใจตอบไปว่า “ฉันไม่มีโอกาสจะให้คุณได้แล้วจริงๆ!!” พูดแล้วขึ้นรถแท็กซี่ไปเลย
วศินคอยข้อความจากหนูดี คอยแล้วคอยเล่าก็เงียบ เขาพึมพำกับตัวเองอย่างเจ็บปวด...
“แม้แต่ความเป็นเพื่อน คุณก็ให้ผมไม่ได้เหรอ...คุณหนูดี”
ขณะอยู่ในภวังค์ผิดหวังเสียใจนั้น จ้อมาบอกว่านายแม่ให้มาตามไปกินข้าว วศินจึงนึกได้ถามถึงลลิดา
“อ๋อ...ตั้งแต่รู้ว่าพ่อเลี้ยงถูกตำรวจจับ คุณลิดาก็เก็บของหายไปเลยค่ะ”
วศินไม่ทันพูดอะไร อินทัชก็วิ่งเข้ามาบอกว่าคุณสุดาวรรณเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว วศินหน้าเครียดทันที
ooooooo
ที่หน้าบ้านศิริเสนี มีคนเก็บของเก่ามานั่งคัดแยกของใส่ถุงอยู่ พอสุดาวรรณขับรถออกจากบ้านมองกระจกหลังไม่มีคนตามก็โล่งใจเร่งเครื่องไป
ชายเก็บของเก่าหยิบมือถือขึ้นส่งข่าวทันที ที่แท้เขาคือตำรวจปลอมตัวมาติดตามการเคลื่อนไหวของสุดาวรรณ เมื่อตำรวจสองคนในชุดนอกเครื่องแบบได้รับแจ้งก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปไม่ให้สุดาวรรณรู้ตัว
สุดาวรรณขับรถไปจอดหน้าร้านสปา ตำรวจสองนายที่สะกดรอยตามมาต่างงง
ที่แท้สุดาวรรณรู้ตัวว่าถูกตามจึงเข้าร้านสปานึกกระหยิ่มว่า “นึกว่าจะจับฉันได้ง่ายๆเหรอ หวังไปเถอะ”
เจ้าของร้านถามว่าคุณสุวันนี้มาทำอะไรดี สุดาวรรณบอกว่ามีคนร้ายตามตนมา เจ้าของร้านตกใจถามว่าจะแจ้งตำรวจไหม
“ไม่ต้อง!! ขอผ่านหลังร้านหน่อยก็พอ แล้วถ้ามีคนมาถามต้องบอกว่าฉันกำลังนวดอยู่ในห้องนะ ...อ้อแล้วก็ขอยืมรถด้วย”
สุดาวรรณหยิบเงินก้อนโตส่งให้ เจ้าของร้านรับแล้วรีบเอากุญแจรถให้ สุดาวรรณก็รีบหลบออกไปทางหลังร้านทันที
ooooooo
อ้อที่ระแคะระคายว่าแม่เป็นคนฆ่าพ่อ วันนี้พยายามเปิดใจคุยกับพี่ชายเพื่อช่วยกันหยุดแม่ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป แต่อ้นไม่ยอมรับ ซ้ำหาว่าอ้อกำลังกล่าวหาแม่ของตัวเอง
“แล้วพี่อ้นคิดว่าอ้ออยากคิดแบบนี้เหรอคะ คิดว่าอ้อไม่รู้สึกแย่เหรอคะ แต่สิ่งที่แม่ทำทุกอย่างมันทำให้อ้ออดคิดแบบนี้ไม่ได้ อ้อก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้หรอกค่ะ ไม่อยากให้เป็นเลยจริงๆ”
อ้นเห็นอ้อร้องไห้ก็เข้าใจถึงความเจ็บปวดของน้องที่เสียพ่อไปแล้วยังมารู้ความจริงว่าแม่เป็นคนฆ่าพ่อ แต่อ้นก็ไม่อาจรับความจริงได้ บอกอ้อว่า “คิดมากไปเอง ทุกอย่างมันไม่แย่อย่างที่อ้อคิดหรอก” แล้วเดินหนีไปเลย อ้อได้แต่ร้องเรียกพี่ชายน้ำตาไหลพราก...
สุดาวรรณออกทางหลังร้านและยืมรถเจ้าของร้านสปาหลบตำรวจนอกเครื่องแบบไปได้ ระหว่างนั้นก็อดคิดถึงคำเตือนของอ้นที่ว่าถ้าตำรวจจับผู้ชายคนนั้นได้มันต้องซัดทอดถึงแม่ ยังไงแม่ก็ไม่รอดอยู่ดี ตอนนั้นตนบอกอ้นว่าแม่มีวิธีจะควบคุมไอ้ม้าเหล็กได้ ยังไงแม่ก็ไม่ยอมติดคุกเด็ดขาด ก็พอดีมาถึงตึกร้างที่นัดม้าเหล็กไว้
ทันทีที่พบกัน สุดาวรรณบอกม้าเหล็กว่า “ตำรวจเห็นภาพแกเข้ามาในบ้านฉันจากกล้องวงจรปิด เลยสงสัยว่าแกเป็นคนร้าย ตำรวจกำลังตามจับตัวแกอยู่”
ม้าเหล็กตกใจถามว่าแล้วตนจะทำยังไงดี
สุดาวรรณบอกว่าต้องหนีไป ตนเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อมแล้ว พูดแล้วยื่นซองเงินปึกใหญ่ให้ บอกว่า
“ในนี้มีเงินอยู่ล้านนึง แกเอาเงินนี่ไป หาทางหลบออกนอกประเทศ อย่าให้ตำรวจจับตัวได้เข้าใจไหม”
“คุณสุไม่ต้องห่วงหรอกครับ ถึงผมจะถูกจับได้แต่ผมก็ไม่มีวันพูดถึงคุณสุเด็ดขาด” สุดาวรรณย้ำว่าอย่าโดนจับดีที่สุด เร่งให้รีบไปซะ “ขอบคุณมากครับคุณสุ” ม้าเหล็กพยักหน้าแล้วหันหลังเดินไป
ม้าเหล็กเดินไปไม่กี่ก้าว สุดาวรรณก็ล้วงปืนยิงใส่ทันที ปัง!!! ม้าเหล็กสะดุ้งจุกกระดอนเล็กน้อย เขาหันมองสุดาวรรณอุทาน “คุณสุ?!...คุณทำแบบนี้กับผมได้ยังไง?”
“คิดว่าฉันเชื่อแกเหรอ” พูดพลางยิ้มเยาะ “ตอนนี้แกก็พูดได้ว่าจะไม่ซัดทอดมาถึงฉัน แต่เวลาแกโดนจับจริงๆ แกก็คงไม่ยอมติดคุกแทนฉันหรอก จริงไหม ขอโทษด้วยนะไอ้ม้าเหล็ก แต่มันจำเป็นจริงๆ ช่วยไม่ได้”
ม้าเหล็กตัดพ้อว่าเสียแรงที่ตนซื่อสัตย์ต่อคุณตลอดมา สุดาวรรณตอบอย่างไม่ยี่หระว่า
“เพื่อเห็นแก่ความซื่อสัตย์ของแก ฉันจะช่วยไม่ให้แกทรมานไปมากกว่านี้แล้วกันนะ” พูดจบก็ยกปืนเล็งใส่อีก แต่ขณะกำลังจะเหนี่ยวไก เสียงวศินก็ดังขึ้น
“หยุดเถอะคุณสุดาวรรณ!!” สุดาวรรณตกใจหันไปเห็นวศินเดินเข้ามากับอินทัชและตำรวจ ถามว่าพวกแกมาได้ยังไง วศินไม่ตอบแต่ถามม้าเหล็กว่า “เห็นแล้วใช่ไหมม้าเหล็ก ว่าฉันพูดไม่ผิด!!!”
ม้าเหล็กค่อยๆลุกขึ้น ถอดเสื้อนอกออกจึงเห็นว่ามีเสื้อกันกระสุนของตำรวจอยู่ข้างใน สุดาวรรณยังรับไม่ได้ ถามว่านี่มันอะไรกัน เป็นไปไม่ได้ ม้าเหล็กยิ้มเมื่อนึกถึงการวางแผนกันก่อนมาพบสุดาวรรณ...
คืนนั้นวศินไปดักรอม้าเหล็กในซอยเปลี่ยว ม้าเหล็กหันกลับจะวิ่งหนีก็เจออินทัชรวบตัวไว้ ม้าเหล็กดิ้นร้องให้ปล่อย วศินจึงบอกอินทัชให้ปล่อย ม้าเหล็กจะหนีอีกแต่ถูกวศินพูดเสียงดังว่า
“ถึงแกหนีรอดจากฉันได้ แต่คุณสุก็ไม่เอาแกไว้หรอก!!” พอม้าเหล็กชะงัก วศินบอกว่า “ตอนนี้แกกลายเป็นฆาตกรฆ่าพ่อฉันที่ตำรวจกำลังตามหาตัวไปแล้ว...แต่ฉันรู้ว่าแกไม่ได้ฆ่าพ่อฉัน เพราะช่วงเวลาที่แกเข้าไปในบ้าน ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่พ่อฉันถูกฆ่าตายเหมือนกัน...ฆาตกรที่ฆ่าพ่อฉันคืออีกคน ฉันพูดถูกไหม”










