ตอนที่ 8
“คนเราไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวกับความตายทั้งนั้น แต่หมอคือคนที่ยอมเสียสละที่จะเผชิญหน้ากับความตายตลอดเวลา ถ้าเธอยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ก็อย่าเป็นหมอเลย” เวหาติงว่าแต่ถ้าตนเก่งกว่านี้ก็จะช่วยเขาได้ “งั้นเธอก็ไปพัฒนาฝีมือสิ วันนี้เธอช่วยเขาไม่ได้แต่วันหน้าเธอยังช่วยคนอื่นได้ แต่ถ้าเธอล้มเลิกซะตั้งแต่วันนี้ ก็เท่ากับตัดโอกาสที่จะได้ช่วยชีวิตคนอื่นอีก”
คำพูดของหมอนลินีทำให้เวหาได้คิด
ทอรักเดินตามหาเวหาไปถึงหน้าเคาน์เตอร์ถามแป้นกับอนงค์ที่ยืนอยู่ว่า หมอเวหาไปไหนไม่อยู่ที่ห้องทำงาน อนงค์บอกว่าไม่ทราบ พอทอรักเดินผ่านไป แป้นถามว่าทอรักกับหมอเวหาเขาเป็นแฟนกันหรือ
“เป็นแฟนเขาข้างเดียวน่ะสิ เห็นแต่คุณทอรักตามอยู่ฝ่ายเดียว ไม่เห็นหมอเวหาจะเล่นด้วยเลย” อนงค์โวยจนแป้นถามว่าทำไมต้องโวยตน หรือแกยังไม่เลิกหวัง อนงค์ย้อนถามว่าก็แล้วทำไมตนต้องเลิกล่ะ
“หืม...ระวังตัวไว้เถอะ คุณทอรักรู้เข้าจะโดนหนัก” แป้นสยองแทน แต่อนงค์เหยียดปากอย่างไม่แคร์
ooooooo
ภูผากับต้อยติ่งไปเยี่ยมสมคิดที่เรือนจำ แต่ต้อยติ่งรออยู่ข้างนอกเพราะไม่อยากร้องไห้ให้พี่ชายเห็น
ภูผาถามว่าอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง สมคิดบอกว่าสบายกว่าอยู่ข้างนอกมาก ไม่ต้องโดนซ้อม ไม่ต้องหนีตำรวจ มีข้าวให้กินสามมื้อ ที่สำคัญไม่ต้องคอยหาเงินเลี้ยงใคร ภูผาบอกว่าถ้าคิดอย่างนี้ตั้งแต่วันนั้นเรื่อง
ทุกอย่างก็คงไม่เกิด ตัดบทว่าช่างมันเถอะกลับไปแก้อะไรไม่ได้แล้ว อยู่ในนี้ก็ทำตัวดีๆจะได้ออกไปเร็วๆ
“ภูผา ฝากต้อยติ่งด้วยนะ”
“ต้อยติ่งมันก็น้องเราเหมือนกัน” ภูผายืนยัน ทำให้สมคิดสบายใจขึ้น
ภูผามุ่งมั่นฝึกฝนศึกษาหาความรู้ในเรื่องเกษตรอย่างจริงจัง วันนี้ก็ไปศึกษาเกี่ยวกับการทำปุ๋ย ลงมือผสมปุ๋ยอย่างไม่กลัวเปื้อนกลัวเหม็น แต่ต้อยติ่งกลับไปนั่งหลับในห้องเรียนจนภูผาต้องปลุกให้ตั้งใจเรียน
และวันนี้ขณะภูผากำลังทำงานที่ไร่ทวีวัฒน์ กานต์ก็ถือจดหมายเข้ามาให้ บอกว่าดูซิจดหมายใครมา แล้วแกล้งวิ่งหนี ภูผาดีใจวิ่งไล่กวดตามกานต์ไปติดๆ
ooooooo
เพราะเวหาไม่ติดต่อทางบ้านมาเป็นเดือน เส็งกับเดือนเป็นห่วงจึงหอบข้าวของพะรุงพะรังไปหาที่โรงพยาบาล บอกเจ้าหน้าที่ว่ามาหาหมอเวหาตนสองคนเป็นพ่อกับแม่ เจ้าหน้าที่จึงให้รอ










