ตอนที่ 8
ภูผาทำธุรกิจด้านการเกษตรอย่างมานะมุ่งมั่น กิจการเจริญก้าวหน้าจนสร้างบ้านหลังใหม่ได้ มีห้องทำงาน โต๊ะทำงาน ตู้เอกสารและอุปกรณ์การทำงานที่จำเป็นครบครัน
ที่โต๊ะทำงาน ลิ้นชักหนึ่งมีกล่องเก็บจดหมายของทอรุ้งไว้เฉพาะ และมีดิกชันนารีวางอยู่กับกล่อง
แต่วันนี้เขาตกใจเมื่อดึงลิ้นชักออกมาเปิดกล่องจดหมายดูไม่มีจดหมายเหลืออยู่เลย เขาปิดลิ้นชักพรวดออกไปทันที เจอกานต์ก็ถามว่าจดหมายตนหายไปไหน กานต์อึกอักว่าไม่รู้แล้วจะเดินหนี ภูผาตรงเข้าจับตัวกานต์ไว้ถามแทบเป็นตะคอกว่า “บอกมา! ใครเอาจดหมายเราไป ต้อยติ่งใช่ไหม”
กานต์ยิ่งตกใจตอบตะกุกตะกักอย่างมีพิรุธ ภูผาผละจากกานต์ไปทันที ไปเจอต้อยติ่งนั่งเหม่อริมคลองมองน้ำอยู่ ก็ตรงเข้าไปดุว่า ไม่คิดเลยว่าเธอจะถือวิสาสะแบบนี้
ต้อยติ่งอ้างว่าตนกำลังช่วยพี่ให้กลับมาสู่โลกความจริงเพราะทอรุ้งไม่เอาพี่แล้ว ภูผาตวาดว่าพี่จะทำอะไรมันก็เรื่องของพี่ เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่ง
“มีสิ พี่ภูผายังมีสิทธิ์ห่วงต้อยติ่ง ต้อยติ่งก็มีสิทธิ์ห่วงพี่เหมือนกัน เลิกหวังซะที คิดเหรอว่าพ่อแม่เขา จะยอมให้ลูกสาวมาคบกับคนที่เคยทำงานบ่อน วิ่งหนีตำรวจอย่างพี่”
ภูผาสะท้านไปทั้งตัวเพราะต้อยติ่งพูดความจริง สั่งให้ต้อยติ่งเอาจดหมายคืนมา ต้อยติ่งดื้อเงียบ ภูผาถามว่าจดหมายอยู่ไหน ต้อยติ่งบอกว่าทิ้งน้ำไปแล้ว ภูผาโกรธกำหมัดแน่นเดินเข้าหา ต้อยติ่งตกใจถามว่า
“พี่ภูผาจะทำอะไร จะตีต้อยติ่งเหรอ” แล้วลุกเดินไปรื้อกองฟางล้วงจดหมายที่ซุกไว้ออกมาปาใส่ภูผาตัดพ้อเสียงสั่น “พี่ภูผารักยัยคุณหนูนั่น พี่ภูผาไม่รักต้อยติ่ง!” แล้ววิ่งเตลิดไป
ooooooo
สายวันรุ่งขึ้นภูผาเห็นต้อยติ่งหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเดินผ่านมาถามว่าทำไมไม่ไปทำงาน ต้อยติ่งบอกว่าพี่ภูผาเกลียดตนแล้วจะอยู่ไปทำไม ตนจะกลับบ้าน
ภูผาขอโทษที่เมื่อวานอารมณ์ร้อนไปหน่อย บอกให้เอาของไปเก็บแล้วกลับไปทำงานเสีย ต้อยติ่งกอดขอโทษบอกว่าต่อไปจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว ภูผาบอกว่าไม่เป็นไรตนยกโทษให้ แต่ปล่อยพี่ได้แล้ว
ภูผาไปธนาคาร ธนาคารต้อนรับด้วยความยินดีเพราะเป็นคนสู้ชีวิต ถามว่าวันนี้มาทำอะไร ภูผาบอกว่ามาซื้อเช็คจะเอาไปให้ที่บ้าน พนักงานธนาคารติงว่าเพิ่งเริ่มกิจการเก็บเงินไว้หมุนก่อนดีกว่าไหมถ้าที่บ้านยังพอมีกินมีใช้ ภูผาบอกว่าเงินหมุนตนพอมีแล้ว พนักงานถามว่าเอาเท่าไหร่ ภูผาบอก “หมื่นนึงครับ”










