ตอนที่ 3
คุณหญิงสั่งสร้อยให้จับตาดูมุดว่าทำอะไรบ้าง หลวงราชก็สั่งมุดให้จับตาดูจางวางกับพิกุล
มุดรายงานว่าจางวางหมายตานายสินให้พิกุล แต่แม่เพียรไม่ยินยอมนัก ส่วนตัวพิกุลก็เกินกว่าที่ตนจะสะกดรอยตามเห็นพิกุลซ้อมปี่กับนายสินแต่ก็ดูขลุกขลักติดขัดอะไรตนไม่ทราบ
หลวงราชพรวดออกไปทันทีบอกว่าจะไปหาจางวาง ถึงคราวที่ต้องเลิกอมพะนำได้แล้ว
แต่หลวงราชไปเจอพิกุลเป่าปี่อยู่อย่างเศร้าเหงาและไม่อาจเป่าให้จบเพลงได้ หลวงราชเข้าไปถามว่าทำไมไม่เป่าให้จบเพลง พิกุลขอร้องอย่าเรียกร้องจากตนนักเลย หลวงราชประชดว่าตนไม่ใช่นายสินที่เรียกร้องอะไรหล่อนก็พร้อมจะให้ได้แม้แต่ซ้อมปี่ให้ โพล่งบอกพิกุลว่า
“ฉันจะไม่ยอมให้หล่อนเป็นของคนอื่นนอกจากฉันหรอกพิกุล”
พิกุลร้องไห้อย่างอัดอั้น หลวงราชเข้าไปกอดขอโทษ สินเห็นภาพนั้นก็ชะงัก เจ็บปวดสะท้อนใจในสถานะของตัวเอง
หลวงราชจะพาพิกุลไปพบจางวางพ่วงเพื่อบอกว่าเราชอบพอกัน พิกุลไม่เห็นด้วยบอกว่าตนไม่อยากเป็นคนอกตัญญู หลวงราชจึงจะให้พ่อไปสู่ขอแทน จางวางคงจะเกรงใจพ่อบ้าง แต่พิกุลไม่ยอมได้ชื่อว่าเป็นคนอกตัญญู แต่หลวงราชเห็นความรักแท้ในสายตาของพิกุล ดึงพิกุลไปกอดแน่น พิกุลสะอื้นสะท้อนใจกับความรักที่ไม่มีวันเป็นไปได้ของตน สินฮึดฮัดจะเข้าไปขวาง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจยอมถอยไปอย่างผู้แพ้
ในที่สุดเอื้อยกับสินก็ตกอยู่ในสภาพผิดหวัง อยู่ในหัวอกเดียวกัน สินอกหักจากพิกุลและเอื้อยผิดหวังจากสินแต่ยังรักและพร้อมจะให้กำลังใจและเจ็บแทนสินตลอดเวลา
หลวงราชไปหาจางวางหมายจะพูดเรื่องกับพิกุล แต่แล้วก็ไม่ได้พูดเมื่อเห็นจางวางถือข้างสินเต็มตัว
เพียรขัดใจนักที่จางวางบังคับใจลูก ทั้งเพียรและสุดต่างสงสารเอื้อยแต่ก็หวังว่าเอื้อยจะได้บทเรียนว่า ไม่มีอะไรได้ดั่งใจไปทุกเรื่อง
ooooooo
ในที่สุดศพเถ้าแก่สงก็ลอยขึ้นมาฟ้องสังคม เจ้าคุณต่วนอ่านเอกสารที่รายงานแล้วบอกว่าช่างโหดเหี้ยมนัก มันกระทำอุกอาจไม่เกรงอาญาแผ่นดินแม้แต่น้อย
เจ้าคุณต่วนกำชับคุณหลวงดูเรื่องนี้ให้ดี ก่อนที่ใครจะฉวยโอกาสยกเรื่องนี้ขึ้นมาแยกเขาแยกเราเอาไปก่อเหตุวุ่นวายได้
จีนพ้งตำหนิสารภีว่าทำไมไม่เผาเสียให้สิ้นซากมันถึงลอยขึ้นมาฟ้องอย่างนี้ สารภีบอกว่าตนหมายจะให้ลูกน้องมันรู้จะได้ไม่กำเริบเสิบสาน จีนพ้งถามว่า
คิดว่าจะปิดปากได้ทุกคนหรือ










