ตอนที่ 2
หลวงราชถามว่าคุณพ่อขัดใจอะไรคุณแม่แต่เช้า เจ้าคุณสวนว่า
“แกต่างหากเจ้ายศ เมื่อคืนทำอะไรไว้ ขึ้นไปแก้ต่างกับแม่แกให้ดีเถอะ”
“กระผมรู้วิธีปลอบใจคุณแม่ดี แต่ตอนนี้ต้องรบกวนคุณพ่อช่วยรับหน้าแทนไปก่อนนะขอรับ”
พูดแล้วรีบออกไปเลย เจ้าคุณห้ามไม่ทันจึงให้มุดไปตามกลับมา มุดไปถึงหลวงราชขับรถออกไปพอดีมุดจะกลับเข้าไปก็มีเสียงกระดิ่งจักรยานจากพนักงานไปรษณีย์เรียกแล้วยื่นจดหมายให้
“จากหลวงบำรุง” มุดรับไปอ่านทำหน้าสงสัย
เช้าเดียวกันนี้ ขณะเจ้าคุณนั่งหย่อนอารมณ์ในห้องรับแขก คุณหญิงก็ผลุนผลันเข้ามาต่อว่าเจ้าคุณที่รับเป็นเจ้าภาพงานวัดโดยไม่บอกกล่าวกัน พาลไปถึงหลวงราชว่าคงได้จากเจ้าคุณไปจึงไม่เห็นหัวตนเลย
เจ้าคุณบอกว่าที่ไม่บอกกล่าวก็เพราะเห็นว่าเป็นงานชาวบ้านแต่ถ้าคุณหญิงอยากไปเปิดหูเปิดตาต่างบ้านต่างเมืองตนก็ไม่ขัด คุณหญิงระแวงว่าพ่อลูกจะซ่อนนังเล็กๆไว้ที่นั่น เจ้าคุณขออย่าคิดไปไกลเลยมันบาป ตนไปเป็นเจ้าภาพงานบุญต่างหาก
คุณหญิงค้อนพูดเบาๆว่าเอาพระมาบังหน้า นิ่งไปอึดใจจึงเสียงอ่อนลงว่า
“ถ้าไม่ติดว่าต้องไปเอาใจคุณหญิงพิศก่อนละก็... อิฉันไม่ให้หนีไปง่ายๆอย่างนี้หรอกเจ้าค่ะ”
ooooooo
เช้าวันเดียวกัน ขณะเพียรกับพิกุลกำลังช่วยกันขัดบันไดท่าน้ำอยู่ จางวางพ่วงก็ถือไม้ตะพดหน้าถมึงทึงเข้ามา เอื้อยตามมาขอร้องพ่อจางวางค่อยพูดค่อยจากันเถอะ
“ไอ้นั่นมันเป็นใคร มันรู้จักมักจี่เอ็งตั้งแต่เมื่อไรพิกุล” จางวางถามเกือบเป็นตะคอก
พิกุลตกใจที่พ่อรู้เรื่องนี้ เอื้อยรีบเข้าไปยืนข้างพิกุล บอกว่าตนช่วยพูดให้พ่อจางวางเข้าใจ แต่พ่อจางวางกลับคิดเป็นอื่นแล้วโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เพียรงงถามว่าเรื่องอะไรกัน จางวางระเบิดใส่ทันทีว่า
“ก็ลูกสาวตัวดีของแม่เพียรนั่นไง มันลอบคบหาผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายตีนแล้วมันยังเป็นคนทำปี่แตกกับมือ” แล้วหันใส่พิกุล “ปี่ที่ข้ายกให้เอ็งแท้ๆ กลับทิ้งขว้างไว้ในมือคนอื่น งามหน้านักนังพิกุล”
เพียรหันถามพิกุลว่าอย่างไร พิกุลกล้ำกลืนยอมรับ
เอื้อยบอกให้พิกุลเล่าให้พ่อจางวางฟังเหมือนที่เล่าให้ตนฟัง พ่อจางวางอาจจะเข้าใจ แล้วขอให้พ่อจางวางใจเย็นฟังพิกุลสักหน่อยเถอะ
“มันยอมรับอยู่เมื่อกี้แล้วเอ็งจะให้มันแก้ตัวอะไรอีก...อีลูกไม่รักดี!!!” จางวางด่าพิกุลอย่างผิดหวังแล้วจะหวดไม้ตะพดสั่งสอน เพียรรีบดึงพิกุลออกเหมือนจะรับตะพดแทน จ้องปราม
จางวางบอกว่าตนสิ้นหวังในตัวพิกุลแล้วที่หวังจะให้กลับมาเป็นคนปี่ก็เป็นอันหมดสิ้นในวันนี้ พูดตัดว่า
“ในเมื่อเอ็งไม่เห็นของดีที่อยู่กับตัว ข้าก็เกินจะช่วยเอ็ง”










