ตอนที่ 2
“เอ็งเสียดายที่ข้าไม่ตกปากรับคำไอ้พวกนั้นใช่ไหม”
“ท่านจันเป็นใครหรือจ๊ะพ่อ” พิกุลไม่ตอบ แต่กลับถามคำถามที่จางวางต้องหันขวับมอง
จางวางพาพิกุลไปที่ห้องพระ เลื่อนกล่องใส่ปี่ให้พิกุล พิกุลรับมาแล้ววางปี่ไว้ในกล่องตามเดิมเหมือนวันที่จางวางได้รับปี่นี้มา เล่าให้พิกุลฟังว่า
“ท่านจันเป็นผู้อุปถัมภ์ครูทับ ครูปี่ของพ่อ ปี่นี้ก็เป็นปี่คู่กายของครู...”
ooooooo
จางวางพ่วงเล่าย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อนว่า ไม่ว่าครูทับจะไปเดี่ยวปี่ที่ไหน คุณจันก็จะตามไปดูเหมือนเงาตามตัว ครั้งหนึ่งในตำหนัก คุณจันให้บ่าวผู้หญิงคนหนึ่งส่งจดหมายน้อยกับดอกปีบมาให้
ตนรับและเอาใส่กล่องเก็บปี่ไว้
เมื่อครูทับเดี่ยวปี่จบเอาปี่มาเก็บเห็นจดหมายน้อยกับดอกปีบก็อ่านยิ้มมีความสุข พ่วงเอ่ยว่าจดหมาย
ของท่านจันทำให้ครูยิ้มได้ทุกครา ครูทับบอกว่าไม่ยิ้มได้อย่างไร อย่างน้อยก็รู้ว่ามีคนฟังข้าอยู่คนหนึ่ง พ่วงติงว่าตนเห็นคนหลงเสียงปี่ของครูทั้งห้อง
“อย่างนั้นรึ เช่นนั้นเจ้าของปี่เขาคงสมใจว่า
ปี่ของเขาทำให้คนรื่นรมย์ด้วย”
“เพราะครูตั้งใจเป่าให้ท่านจันฟังหรือไม่ขอรับคนอื่นถึงพลอยสุขไปด้วย” ครูทับมองหน้าว่าเจ้าคารมนะเอ็ง พ่วงย้ำถามว่า “มันเป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ขอรับ”
“เอ็งหยิบปี่ขึ้นมาเป่า ก็อย่าเพียงเป่าให้จบ เมื่อเอ็งสุขใจที่ได้เป่า คนอื่นเขาก็สุขใจด้วย นั่นน่ะบุญอย่างหนึ่งนะเจ้าพ่วง”
จางวางพ่วงคิดถึงคำสั่งสอนของครูทับแล้วนึกถึงทุกคนที่ฟังปี่ที่พิกุลเป่าเหมือนต้องมนต์ เอ่ยต่อว่า
“ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ปี่ท่านจันก็มีแต่จะทำให้คนรื่นรมย์ได้ไม่เปลี่ยนแปลง เสียดายแต่ว่าเวลาแห่งความรื่นรมย์ของท่านนั้นสั้นเสียเหลือเกิน” พิกุลถามว่าเกิดอะไรขึ้นหรือ จางวางตัดบทว่า “เอ็งยังไม่จำเป็นต้องรู้ตอนนี้”
“จ้ะพ่อ ฉันจะเป่าให้สมกับที่ได้ถือปี่ท่านจัน ให้คนรื่นรมย์ในเสียงปี่สมกับความตั้งใจของท่านจัน”
แต่พอพิกุลเปิดประตูห้องพระออกมามือถือกล่องปี่มีจางวางเดินตามมาก็ต้องชะงักเมื่อเจอเอื้อย เสงี่ยม
อ่ำ อ้น นั่งหน้าสลอนอยู่หน้าห้อง จางวางถามว่าพวกเอ็งมารออะไร อ่ำกับเสงี่ยมเกี่ยงให้เอื้อยพูด
เอื้อยขอให้จางวางยอมรับคำขอของท่านเจ้าคุณ ตนอยากให้พิกุลไปเป็นคนปี่ของท่านเจ้าคุณ ตนอยากให้พิกุลไปทำให้คนรู้ว่าปี่ท่านจันนั้นเสนาะหูเพียงไหน แม้แต่คุณหลวงที่พิกุลเคยกลัวนักหนายังต้องตามมาขอร้องให้พิกุลเป่าปี่ให้ฟัง พิกุลพยายามท้วงติง กลัว










