ตอนที่ 14
“พอดีมีคนฝากช่อดอกไม้มาให้คุณผู้หญิงน่ะครับ”
“เขาอยู่ไหนแล้วล่ะครับ”
บริกรทำเป็นหันไปที่มุมหนึ่งของร้าน ก่อนจะบอกว่าเขาไปแล้ว เขมจิรายืนยันว่าผิดคนแล้วเธอไม่ได้ชื่อพิมพ์ชนก ธนาคิมแนะให้เธอรับช่อดอกไม้ไว้ แล้วรับจากมือบริกรไว้เอง เขมจิราไม่กล้ามองมันด้วยซ้ำ เขาหยิบการ์ดที่เหน็บไว้ขึ้นมาดู เธอตกใจรีบแย่งไปจากมือ พอเห็นการ์ดเขียนว่า
“สำหรับพิมพ์ชนกของผม จาก...พีท”
เขมจิรากลัวมากปัดช่อดอกไม้ทิ้งแล้วกรีดร้องออกมา ลูกค้าในร้านพากันตกใจเหลียวมองเธอเป็นตาเดียวกัน ธนาคิมยิ่งมั่นใจว่าเขมจิราคือพิมพ์ชนกของพีทนั่นเอง ถามเธอว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แล้วหยิบการ์ดขึ้นมาจะอ่านเธอร้องห้ามเสียงหลง แต่ไม่ทันเขาหยิบมาอ่านเสียก่อน อ่านเสร็จถามเธอว่ารู้จักคนชื่อพีทไหมเธอส่ายหน้าไม่รู้จัก เขานิ่วหน้าแปลกใจแต่ดอกไม้นี่
ส่งมาให้เธอไม่ใช่หรือ
“แต่เขมไม่ได้ชื่อพิมพ์ชนก จริงสิ อาจจะเป็นพิมพ์ เอ่อ ผู้ชายของพิมพ์น่ะค่ะ เขาอาจจะรู้จักเขม พี่คิม เขมอยากไปจากที่นี่แล้ว เราไปกันเถอะ” พูดจบเขมจิรารีบออกจากร้านไปเลย...
ครั้นมาถึงหน้าร้าน เขมจิราเจอชาคริตยืนอยู่
เขาร้องทักกำลังคิดถึงเธออยู่พอดี เธอหันหลังจะเดินหนีกลัวธนาคิมรู้ความลับ แต่ชาคริตขวางไว้ เป็นจังหวะเดียวกับ
ธนาคิมตามออกมา ชาคริตเห็นเขาก็ร้องทักมาที่นี่
เหมือนกันหรือ เขาพยักหน้าเขามากับคู่หมั้น ชาคริตกำลังจะบอกว่าเขมจิรากับตนรู้จักมาก่อนแต่เธอชิงพูดตัดหน้าว่าเราเพิ่งเจอกัน แล้วแนะนำตัวเองว่าชื่อเขมจิรา สุวรรณเวศน์ ยินดีที่ได้รู้จัก ชาคริตเล่นตามน้ำ
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการครับ
คุณเขมจิรา คุณดูเหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรู้จักมาก เธอชื่อพิมพ์ชนก” คำพูดของชาคริตทำให้เขมจิราไม่พอใจ
“คงจะพี่สาวของเขมเขาน่ะครับ”
“งั้นเหรอครับ แบบนี้พี่สาวกับคุณคงเหมือนกันมากๆเลยสิครับ” ชาคริตยิ้มกวน
“คงงั้นมังคะ...พี่คิมคะเราไปกันเถอะค่ะ พี่คิมบอกจะพาเขมไปที่อื่นอีกนี่คะ”
ธนาคิมบอกลาชาคริตแล้วเดินออกไปกับเขมจิรา ชาคริตมองตามเธอยิ้มสะใจ
ooooooo
จากนั้นไม่นานธนาคิมพาเขมจิรามาที่เจดีย์เก็บอัฐิที่แยกมาจากเจดีย์อื่น เธอมองไปรอบๆอย่างหวาดกลัวไม่ชอบบรรยากาศในวัดแห่งนี้ เขาเรียกเธอมายืนตรงหน้าเจดีย์
“เขมนี่พลาทิป...ไอ้พีท นี่เขมจิราคู่หมั้นฉันเอง”
เขมจิราเพิ่งสังเกตเห็นหน้าเจดีย์มีรูปและชื่อของพลาทิปติดอยู่ ถึงกับช็อกทำอะไรไม่ถูก ยิ่งได้ยินธนาคิมแนะนำว่าพลาทิปเป็นเพื่อนรักของตัวเอง เธอแทบเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด เขาเล่าว่าเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก










