ตอนที่ 14
“อาได้ยินชัดแล้วใช่ไหมครับ”
เรืองเดชพยักหน้ารับ แต่ในใจคิดว่ามันต้องมีเงื่อนงำ...จนกระทั่งหลังอาหารมื้อนั้น เรืองเดชตัดสินใจไปเคาะประตูห้องเรียกลูกสาว
“ลูกฟ้า พ่อเข้าไปได้ไหม”
พราวฟ้ากำลังร้องไห้เสียใจและคิดถึงคม เธอปาดน้ำตาตอบพ่อว่า
“ค่อยคุยกันพรุ่งนี้ได้ไหมคะ ลูกจะนอนแล้วค่ะ”
“ได้จ้ะ พักผ่อนเถอะ”
เรืองเดชเดินจากไปทั้งที่ไม่สบายใจ ส่วนพราวฟ้าซบหน้ากับหมอนสะอื้นตัวโยน รำพึงรำพันอยากรู้เหลือเกินว่าคมเป็นอย่างไรบ้าง
เวลานั้นคมนอนหนาวเหน็บเจ็บราวไปทั้งตัวภายในบ้านเก่าของหมวย เขาเจ็บทั้งกายและใจ อ้างว้างเดียวดายน่าสงสาร...
ต่างจากเนตรดาวกับเมฆาที่กำลังเพลิดเพลินมีความสุขกันสองต่อสอง เมฆานั่งมองท้องน้ำที่มืดมิด มองแล้วมองอีกเหมือนคิดอะไร จนเนตรดาวสงสัยว่ามีอะไรน่ามองนักหนา
“ฉันแค่คิดถึงป้าคนที่เป็นใบ้วันนี้น่ะ”
“ทำไม”
“เหมือนเคยเจอแกที่ไหนมาก่อน”
“ฉันก็สังเกตเห็นตอนที่นายเปิดกระเป๋าหยิบสตางค์ ป้าแกรู้สึกจะสนใจรูปถ่ายที่มีรอยฉีกของนาย”
“ไม่หรอก แกอาจจะสนใจเงินในกระเป๋าฉันก็ได้ กลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน”
“อืม...พรุ่งนี้เจอกัน”
เมฆาส่งยิ้มหวานแล้วเดินแยกไปคนละทางกับเนตรดาว
ooooooo
เช้าวันถัดมา เรืองเดชประหลาดใจเมื่อเห็นคนงานในบ้านจัดสถานที่กันวุ่นวายเหมือนจะมีงานอะไรสักอย่าง
“ทำอะไรกันเนี่ย” เรืองเดชถามเสียงขุ่น คนงานตอบอย่างนอบน้อมว่า
“จัดสถานที่ครับ”
“จัดทำไม ใครสั่ง”
“ผมสั่งเอง” สิงขรตอบเสียงดังฟังชัด เรืองเดชหันขวับมาจ้อง “จะจัดงานก็ต้องจัดสถานที่สิครับ”
“งาน? งานอะไร”
“ก็งานแต่งงานผมกับน้องฟ้าไงครับ”
“ทำไมต้องรีบขนาดนี้”
“รีบไม่รีบก็ต้องแต่งอยู่ดี ผมว่าคุณอาไปเตรียมตัวเป็นพ่อเจ้าสาวดีกว่า”
สิงขรเริ่มไม่ยำเกรงเรืองเดชแล้วเดินจากไป เรืองเดชสีหน้าไม่เข้าใจ กลับเข้าบ้านมาเคาะประตูห้อง เรียกลูกสาว
“ลูกฟ้า พ่อเข้าไปได้ไหม”
คนรับใช้ผ่านมาเห็นรีบบอกเรืองเดชว่า “คุณฟ้า ไม่อยู่หรอกค่ะ”
“ไปไหน”
“ไปใส่บาตรที่วัดแต่เช้าแล้วค่ะ”
เรืองเดชถอนใจ เดินกลับไปด้วยสีหน้ากังวล
เวลาเดียวกันนั้นเอง คมยังซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังเก่าของหมวย ท่าทางคมเจ็บหนักแต่ได้หมวยแวะเวียนเอายากับอาหารมาให้ด้วยความเป็นห่วง
“หมวยว่าพี่คมน่าจะไปหาหมอนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก”
“จะให้ฉันบอกคุณพราวฟ้าไหม”
“อย่า...ไม่มีประโยชน์ เขากับฉันมันต่างกัน ไม่เหมาะสมกัน ปล่อยให้สายลมพัดเวลาผ่านไปเถอะ”
“หมวยรู้นะว่าพี่คมรักคุณพราวฟ้า”
“ก็แค่อดีตน่ะ”
หมวยสงสารคมมากแต่ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ได้แต่กำชับให้เขากินข้าวกินยาแล้วขอตัวกลับไป ฝ่ายสิงขรที่เพิ่งรู้จากคนรับใช้ว่าพราวฟ้าออกไปใส่บาตรก็โมโหโวยวายดุเธอยกใหญ่ก่อนจะสั่งลูกน้องให้เอารถออกเดี๋ยวนี้










