ตอนที่ 2
“สงสัยอั๊วคงจะคิดไปเองคนเดียว เพราะสำหรับเฮียอั๊วมันไม่มีความสำคัญอะไรเลย”
“ไม่เอาน่าอาจู อั๊วไม่ได้หมายความอย่าง...”
พูดไม่ทันจบปิ่นมุกก็พูดตัดหน้า “ตกลงอั๊วอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร ตุ๊กตาที่เฮียเลี้ยงให้เรียนสูงๆแทนแจ้ซังที่ไม่ยอมทำตามใจเฮีย หรือเครื่องมือไถ่บาปแทนอาเจ็กชั่วๆของเฮียกันแน่”
ปิ่นมุกแหวไม่ไว้หน้า ทรงวาดจะปลอบแต่ไม่ทันอ้าปากเธอก็โพล่งอย่างเหลืออด
“แต่ไม่ว่าฐานะอะไรอั๊วก็คือเด็กจรจัดที่เฮียเก็บมาเลี้ยงไว้รับใช้อยู่ดี...ขอบพระคุณที่เมตตานะคะเถ้าแก่ทรงวาด!”
ooooooo
ปิ่นมุกน้อยใจที่ถูกผู้อุปการะหนุ่มตวาดไล่ ทรงวาดหรือเสือรู้สึกผิดมากรีบตามไปปรับความเข้าใจ สาวน้อยในอุปการะเห็นเขาอยู่หน้าห้องก็ปาดน้ำตาทิ้ง สะบัดเสียงใส่
“เถ้าแก่รอไม่นานหรอก ข้าวของอั๊วมีนิดเดียว เก็บเสร็จแล้วก็จะไป”
“เลิกประชดซะทีเถอะ อั๊วขอโทษ อั๊วไม่ได้นอนทั้งคืน พอโดนลื้อถามจุกจิกอีกก็เลยหงุดหงิด”
ทรงวาดสารภาพผิดอย่างหมดท่า ปิ่นมุกหมุนตัวมองนิ่งๆ รอฟังคำแก้ตัวของเขา
“อั๊วไม่เคยเห็นลื้อเป็นคนอื่นนะอาจู ลื้อเป็นคนในครอบครัวอั๊วเสมอ แต่ที่ลื้อพูดก็ถูก ที่อั๊วให้ลื้อมาอยู่ด้วยเพราะต้องการไถ่บาปแล้วก็อยากให้ลื้อเป็นตัวแทนอาซังแต่ไม่ใช่ว่าอั๊วไม่อยากให้ลื้อมีชีวิตที่ดีขึ้นซะหน่อย”
“ถ้าคิดว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันจริงมันก็ต้องถามได้คุยได้ไม่ใช่เหรอ คงไม่ไล่ตะเพิดอั๊วอย่างเมื่อกี้หรอก”
ปิ่นมุกตัดพ้องอนๆ ทรงวาดถอนใจยาวก่อนเอ่ยอย่างใจเย็น
“ลื้อถามอั๊วสองข้อใช่ไหม...งั้นอั๊วตอบข้อหลังก่อน อั๊วรู้ว่าอาเจ็กกับโอ๊วแปะวางแผนจับคู่อั๊วกับอาไต้เกียว อั๊วยืนยันว่าอั๊วไม่ได้ชอบอี แต่ก็ไม่อยากฉีกหน้าพวกเขา เรื่องนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก อีกไม่นานอาไต้เกียวอีก็รู้เอง”
“แล้วเรื่องที่เฮียหายไปทั้งคืนล่ะ”
“อั๊วไปทดแทนบุญคุณมา”
“เศรษฐีอย่างเฮียจะติดหนี้บุญคุณใคร”
“ลื้อรู้ไหมว่าทำไมอั๊วถึงมีชื่อไทยว่าทรงวาด...”
ทรงวาดพาปิ่นมุกย้อนอดีตเมื่อหลายปีก่อนสมัยเขาเป็นแค่เด็กชายลิ้มบุ่นโฮ่วรับจ้างขัดรองเท้าในเยาวราช เส้นทางชีวิตเขาเปลี่ยนแปลงตลอดกาลเพราะมีโอกาสช่วยชีวิตการันต์นักการเมืองหนุ่มไฟแรงจากเหตุลอบสังหารอย่างอุกอาจ การันต์รู้สึกถูกชะตาเด็กชายลิ้มบุ่นโฮ่วเลยจะขอมาเลี้ยงเป็นลูกชายบุญธรรม










