ตอนที่ 2
ทรงวาดหรือเสือทำตามที่รับปากชาญยุทธพี่ชายบุญธรรมจับประมุขนักการเมืองท้องถิ่นมาเค้นคอถึงเหตุรถถูกวางระเบิด ประมุขปากคอสั่นกลัวตายแต่ยังยืนกรานว่าไม่รู้เรื่อง
ชาญยุทธกับวิสูตรแอบมาดูการเค้นคอด้วย ทรงวาดใช้ไม้แข็งหยิบปืนมาใส่กระสุนหนึ่งนัดต่อหน้าประมุข
“ฉันมีคำถามจะถาม...ขอให้ตอบตามตรง ถ้าไม่ตอบ หรือโกหกฉันจะลั่นไกหนึ่งนัด โชคดีก็รอด โชคร้ายก็ตาย”
“ไม่ต้องมาขู่ กูไม่รู้อะไรทั้งนั้น!”
ประมุขทำไม่กลัวแต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจหน้าซีดเมื่อทรงวาดลั่นไกนัดแรก แม้จะไม่มีกระสุนออกมาแต่ก็ทำให้ประมุขหายใจไม่ทั่วท้อง ทรงวาดแกล้งลั่นไกขู่อีกหลายนัดกระทั่งถึงนัดสุดท้ายที่มีกระสุนในรังปืน ประมุขกลัวสุดขีดถึงขั้นปัสสาวะราดกางเกงและหมดสติไป ทรงวาดจึงรามือพร้อมการปรากฏตัวของชาญยุทธ
“ทำได้ดีมากเสือ...ไอ้ตัวการใหญ่มันหลอกให้ไอ้ประมุขมาที่โรงแรมผ่านแม่เล้า ถ้าระเบิดฉันตายได้ก็โยนให้ไอ้ประมุขเป็นแพะ แต่ถ้าไม่ตายก็คงหวังให้ยกพวกตีกันเหมือนอย่างที่เสือบอกไม่มีผิด”
วิสูตรเห็นด้วย อาสา “ผมจะตามสืบจากแม่เล้าของไอ้ประมุข น่าจะรู้ตัวได้ไม่ยากครับคุณอ้าย”
ชาญยุทธพยักหน้าพอใจแล้วหันไปขอบคุณน้องชาย บุญธรรม ทรงวาดไม่ยินดียินร้ายเพราะไม่สบายใจ กลัวเกิดเรื่องใหญ่คือมีคนตายเพราะเหตุล้างแค้น
กว่าทรงวาดจะกลับถึงบ้านก็เช้ามืด ปิ่นมุกหรือเตียงจูตื่นมาใส่บาตรพร้อมก๊กไช้พอดี สภาพทรุดโทรมเพราะอดนอนของทรงวาดทำให้ปิ่นมุกเป็นห่วง พยายามซักถามแต่เขาไม่ยอมบอกทั้งเรื่องหายไปทั้งคืนและเรื่องไต้เกียวที่ฮุ่ยเซี้ยงกับเม่งฮงวางแผนจับคู่ให้ ทรงวาดตัดบทเดินหนีแต่ปิ่นมุกก็ตามไปดักหน้า
“เฮียจะเดินหนีอั๊วทำไม”
“อั๊วไม่ได้หนีแต่อั๊วรำคาญ ลื้อรู้ตัวไหมอาจูว่านับวันลื้อจะจุ้นจ้านเกินเด็กมากขึ้นทุกทีแล้ว”
“ก็ถ้าเฮียตอบอั๊วดีๆ อั๊วจะต้องจุ้นจ้านไหมล่ะ ถามแค่สองข้อเท่านี้ทำไมต้องเดินหนีไม่ตอบอั๊วด้วยล่ะ”
ทรงวาดถอนใจเหนื่อยหน่าย “ที่ไม่ตอบเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของอั๊วไม่ใช่หน้าที่ลื้อที่ต้องมาซักไซ้ หน้าที่ลื้อมีอย่างเดียวก็คือตั้งใจเรียน แค่นี้มันยากเย็นนักรึไง”
“เออ...ยาก! ถ้าอั๊วไม่เห็นว่าเฮียเป็นคนสำคัญอั๊วก็คงไม่ห่วงไม่อยากรู้อย่างนี้หรอก!”
ทรงวาดชะงักเมื่อเห็นสาวน้อยในอุปการะร้องไห้ ปิ่นมุกโมโหประชดเสียงเขียว










