ตอนที่ 2
เม่งฮงหน้าเสีย เกรงใจฮุ่ยเซี้ยงในฐานะหุ้นส่วนใหญ่ของแก๊งจึงรับปากแบบขอไปที
“ตั่วเฮียไม่ต้องเป็นห่วง อั๊วจะรับผิดชอบเรื่องอาไต้เกียวเองไม่ให้ใครมาดูถูกอีได้หรอก!”
ไต้เกียวไม่ได้เบาใจกับคำสัญญาของเม่งฮง ในใจเดือดพล่านทั้งอับอายและแค้นใจที่ถูกทรงวาดปฏิเสธ ไหนจะปิ่นมุกสาวน้อยในอุปการะของทรงวาดที่ด้อยกว่าเธอทุกเรื่องแต่เขาก็เลือกจะแต่งงานด้วย...สงสัยเธอจะนิ่งนอนใจไม่ได้ คงต้องลงมือทำสักอย่างให้เขาเป็นของเธอให้ได้!
ooooooo
ทรงวาดไม่ยี่หระอารมณ์โกรธเคืองของเม่งฮงกับฮุ่ยเซี้ยง ดำเนินชีวิตตามปกติ ทั้งบริหารโรงสีที่ขายดีวันดีคืนและทำงานบางอย่างให้การันต์กับชาญยุทธพ่อกับพี่ชายบุญธรรม
อย่างเช่นวันนี้ที่เขาให้เฮ้งเตี๋ยงลูกพี่ลูกน้องหนุ่มพามาดูที่ดินของลูกหนี้บ่อนของแก๊งหกห้อง
“ถ้าเฮียอยากได้ที่แถวนี้จริงๆก็ไม่ยากหรอก เจ้าของที่ติดหนี้บ่อนอั๊วท่วมหัว น่าจะดีใจเสียอีกที่เฮียซื้อ ว่าแต่...เฮียจะซื้อไปทำไม อั๊วไม่เห็นมีอะไรดีเลย มีแต่หญ้ากับดินลูกรัง”
“อั๊วไม่ได้เอาไว้เองหรอก พี่บุญธรรมอั๊วสั่งให้มาซื้อเพราะอีกไม่นานจะมีการสร้างมหาวิทยาลัยที่นี่ ก็เลยกว้านซื้อไว้ก่อนตั้งแต่ที่ดินยังถูกๆอยู่”
“จริงเหรอเฮีย...มีอำนาจมันก็ดีอย่างนี้ล่ะนะ หาเงินง่ายจริงๆ”
ทรงวาดไม่ตอบหรืออธิบาย โชคดีที่พริ้มเพราหญิงสาวโรงน้ำชาที่เฮ้งเตี๋ยงคบหามาตามไปกินข้าว พริ้มเพราแยกไปรออีกทาง ทิ้งทรงวาดให้เปิดอกถามเฮ้งเตี๋ยงอย่างจริงจัง
“อาเจ็กรู้รึเปล่าว่าลื้อกับพริ้มเพราคบหากันอยู่”
“รู้ได้ไงล่ะเฮีย พริ้มเพราเป็นผู้หญิงโรงน้ำชาถ้าแค่มีอะไรด้วยอาป๊าไม่ว่าหรอกแต่ถ้าจริงจังอาป๊าเอาตายแน่”
“แล้วลื้อจริงจังรึเปล่า”
“อั๊วรักอาพริ้มเพราจริงๆ ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยนะเฮีย”
คำสารภาพของลูกพี่ลูกน้องหนุ่มทำให้ทรงวาดถอนใจยาว หนักใจแทนอนาคตอีกฝ่ายเพราะรู้นิสัยเม่งฮงดีว่าคงไม่ยอมให้ลูกชายลงหลักปักฐานกับผู้หญิงโรงน้ำชาอย่างพริ้มเพรา
เฮ้งเตี๋ยงก็คิดไม่ต่างกัน ถอนใจหนักหน่วง “บางทีอั๊วก็อยากเป็นได้สักครึ่งของเฮียนะ เฮียรู้ไหมว่าตั้งแต่เกิดมาอั๊วไม่เคยเห็นใครกล้าขัดใจอาป๊ามาก่อนเลย มีเฮียเป็นคนแรกนี่แหละ”
ทรงวาดไม่ได้ภูมิใจกับความกล้าของตัวเองนัก รู้ดีว่าเป็นแค่คำโกหกให้พ้นการจับคู่ของเม่งฮงกับฮุ่ยเซี้ยง แต่เฮ้งเตี๋ยงไม่รู้ เช่นเดียวกับคนอื่นๆในบ้านยกเว้นก๊กไช้กับปิ่นมุกที่ได้ยินกับหูเมื่อวันก่อน










