ตอนที่ 15
ค่ำคืนนั้นลูกอนงค์ร้องไห้โยเยจนอนงค์ใจคอไม่ดี องอาจอุ้มลูกพาเดินกล่อมจนเงียบ อนงค์เปรยว่าตนใจคอไม่ดีฝันร้ายทุกคืน องอาจปลอบจะอยู่กับเธอตลอดเวลา
ค่ำคืนนั้น มธุรสนั่งจิบน้ำชากับเพลาและนิธิมา จากเรื่องของเฟื่องทองทำให้เธอเริ่มปลงกับชีวิต ยอมรับแล้วว่าถ้าเราขาดสติเพียงนิดเดียวชีวิตจะวิบัติ เพลาแย็บหลอกด่าตนหรือเปล่า
“อย่ากินปูนร้อนท้อง รู้ไว้เลยนะ ฉันไม่อยากข้องแวะอะไรกับเรื่องของคุณ”
“วันนี้เกียวกับแม่ไสเงียบเชียว ไม่เห็นตั้งแต่นิกลับจากทำงานแล้ว หรือว่าไม่อยู่”
เพลาฉุกคิดลุกพรวดออกไป มธุรสสังเวชใจว่าเขาจะพบความสุขบ้างไหม นิธิมาตอบเสียงเรียบว่า
“พี่เพลาไม่มีความสุขไปคนแล้ว พี่รสอย่าเป็นอีกคนนะคะ สงสารเด็กๆ”
“ถ้ามันไม่ระรานพี่ ต่างคนต่างอยู่ พี่ก็ไม่มีปัญหาอะไร”
เพลาเข้ามาในห้องเห็นเกียวนั่งมองลูกนอน เขาแปลกใจทำไมถึงอยู่เงียบๆ เกียวไม่ตอบคำถามแต่ยอกย้อนว่า
“หนูก็นึกว่าวันนี้คุณจะนอนข้างบนเสียอีก”
“ทำไมคิดยังงั้น”
“อ้าว ก็เห็นคุยกันกะหนุงกะหนิงกับเมียเก่า นึกว่าถ่านไฟเก่ามันคุขึ้นมาอีกน่ะสิ”
“ฉันไม่เคยหมดรักมธุรส เขาคือผู้หญิงคนแรกในชีวิตฉัน”
“งั้นก็ไปบอกมันสิ แล้วก็นอนกับมัน ไม่ต้องมายุ่งกับหนู” เกียวแหวใส่จนเพลาอ่อนใจ
ooooooo
เช้าวันใหม่ นิธิมา มธุรส และมาลาทิพย์ ใส่บาตรที่หน้าบ้านเสร็จ นิธิมาบอกว่าต้องรีบไปทำงาน ตนเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว มธุรสแปลกใจที่วันนี้ดัมพ์ไม่มารับ นิธิมาคิดว่าเขาคงติดธุระ มาลาทิพย์เห็นรถดัมพ์แล่นมาก็เย้าว่าอาดัมพ์อาจอยากทำเซอร์ไพรส์ มธุรสพูดอย่างหมั่นไส้ว่า
“ตอนสาวๆพี่ชายเธอน่าจะทำกับพี่ยังงี้บ้าง...”
“แหม แต่คุณพ่อก็รักคุณแม่นะคะ” มาลาทิพย์กอดปลอบ
มธุรสเข่นเขี้ยวว่ามีแต่ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจมากกว่า พจนาถือโทรศัพท์วิ่งออกมายื่นให้ มธุรสรับสายแล้วตกใจกับน้ำเสียงเจือสะอื้นของสิรินทร์ รีบถามว่าเป็นอะไร
“รส...พนักงานโรงแรมสาขาของฉันที่ขอนแก่นโทร.มาบอกว่าคุณนพออกไปแต่เช้า มีปืนไปด้วย ฉันพยายามติดต่อเขาก็ติดต่อไม่ได้ ฉันกลัว ฉันไม่อยากเห็นเขาติดคุก”
“อาจจะไม่มีอะไรร้ายแรงก็ได้ เขาก็พกปืนประจำอยู่แล้วนี่”
สิรินทร์กลัวจะไม่ใช่ มธุรสสงสารเพื่อนจะไปอยู่เป็นเพื่อน...
พจนาบอกแม่ว่าวันนี้ตนมีเรียนพิเศษ ส่วนมาลาทิพย์นัดไปห้องสมุดกับเพื่อน พิมพ์รสเองก็ไม่อยู่ ชัยพรจะมารับไปพบญาติๆ มธุรสดีใจ เป็นการยืนยันว่าพิมพ์รสเป็นสะใภ้ที่ทุกคนยอมรับ เพลาได้ยินแล้วยินดีที่เรื่องร้ายๆจะผ่านไปเสียที ฉะนั้นในวันนี้จึงมีเพียงน้อยที่อยู่เลี้ยงตาอุ้ย มาลาทิพย์มองไปหลังบ้าน
“คนเดียวที่ไหน โน่นอีก”










