ตอนที่ 15
แล้วในคืนนั้น เสี่ยก็ขับรถมาจอดข้างสวนลุมพินี ให้เกียวลงไปยืนรับลูกค้าที่สัญจรไปมาราวกับผู้หญิงหากินข้างถนน เกียวน้อยใจบอกเสี่ยว่าให้ตนทำงานสถานที่แบบนี้จะจับคนรวยๆได้อย่างไร เสี่ยยิ้มเยาะพูดหยันทันทีว่า
“เคยสำรวจตัวเองรึเปล่าว่าเราน่ะมันเน่าแล้ว ไม่ได้สดใหม่เหมือนแต่ก่อน มีคนโฉบมาคุยด้วยก็บุญแล้ว”
“หนูจะไม่อยู่กับเสี่ย หนูจะกลับบ้าน”
“ก็ลองดูสิ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก แต่จะลากแม่เธอมากระทืบให้ตายต่อหน้าเธอเลย...ไปได้แล้ว”
เสี่ยขึงขังไล่เกียวไปยืนริมถนน เกียวน้ำตาไหลพรากไม่เคยคิดว่าชีวิตตัวเองจะตกต่ำขนาดนี้ แต่เพราะไม่มีทางเลือกก็จำต้องรับสภาพนี้ต่อไป
ooooooo
หลายวันผ่านไป เฟื่องทองเริ่มจับสิ่งของใกล้ตัวประคองเดิน แล้วให้เผอิญที่เธอเดินมาได้ยินวีระคุยกับฟ้าทอง ว่าเขากลับมาอยู่บ้านเพราะฟ้าทองไม่ใช่เฟื่องทอง
“อย่าเอาฟ้าไปเกี่ยวด้วย ฟ้าไม่อยากทำผิดอีกแล้ว”
“พี่รักฟ้า เรารักกัน เราเคยคุยกันไงว่าจะหนีไปด้วยกัน ไปอยู่เมืองนอกด้วยกัน”
“ไม่...ฟ้าจะไม่กลับไปทำอย่างนั้นอีกแล้ว พี่เฟื่องดีต่อฟ้ามาก มากเกินกว่าที่ฟ้าจะกล้าทรยศพี่เฟื่อง”
“ก็อยู่แบบนี้ เราก็หาความสุขได้ เฟื่องก็ให้เขาอยู่เหมือนเดิม หมอก็บอกแล้วไงว่าคงพิการไม่ปกติ ขาไม่มีแรง ต่อไปก็คงเดินไม่ได้ จะให้พี่ดูแลคนพิการไปตลอดชีวิตเหรอ”
เฟื่องทองได้ยินหัวใจสลาย สะอื้นแล้วล้มตึงไปทันที วีระกับฟ้าทองสะดุ้งตกใจ เห็นเฟื่องทองนอนปากเบี้ยวหน้าตาเหยเก น้ำตาไหลริน พยายามไล่ทั้งสองออกไปจากบ้าน วันวิ่งมาเห็นสภาพเจ้านายก็พุ่งเข้าไปประคองพร้อมกับขอร้องเสียงสั่นเครือ
“อย่าทำร้ายเธออีกเลย”
วีระตะลึงอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากอย่างเห็นแก่ตัว “เฟื่อง อย่าโกรธผม ผมพูดความจริง คุณต้องรับให้ได้ว่าคุณไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมไม่ทนอยู่กับคนพิการหรอก”
ฟ้าทองรับไม่ได้ปรี่ไปตบหน้าวีระฉาดใหญ่แล้วด่าซ้ำ “ขอบใจที่ทำให้ฟ้าตาสว่าง เลว...ออกไป ฟ้าไม่มีวันทำชั่วอีก ฟ้าจะอยู่ดูแลพี่เฟื่องเอง จะชดใช้ที่เคยทำเลวกับพี่เฟื่อง...พี่เฟื่องยกโทษให้ฟ้าด้วย ฟ้าผิดไปแล้ว”
ฟ้าทองร้องไห้กับพี่สาวอย่างสำนึกผิด เฟื่องทองน้ำตาไหลพรากปากเบี้ยวพูดไม่ออก วันเห็นท่าไม่ดีรีบตัดบทอย่างร้อนรน
“ใครจะอยู่ใครจะไปอิฉันไม่สนใจ รีบพาคุณเฟื่องไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ”
วีระอุ้มเฟื่องทองเดินตามฟ้าทองที่วิ่งนำหน้าไปที่รถก่อนแล้ว...
หลายวันผ่านไป มธุรสกับสิรินทร์มาเยี่ยมเฟื่องทองที่บ้าน สองคนช่วยประคองคนป่วยให้เดินมากๆ โดยมีฟ้าทองยืนมองหน้าเศร้า
“ค่อยๆเดินนะ เดินบ่อยๆ ทำตามที่หมอบอก กล้ามเนื้อจะได้กลับมาแข็งแรง”










