ตอนที่ 11
“กองทัพอังวะทั้งสองทัพทำงานสอดประสานกันประกอบกับการต้านทานของกรุงศรีอยุธยาทำได้ไม่ดีนัก ทำให้วงล้อมของอังวะกระชับเข้ามาเรื่อยๆ เป็นผลให้เสบียงอาหารในกรุงศรีอยุธยาเริ่มขาดแคลน แม้ชาวบ้านทั่วไปจะยังไม่มีผลกระทบมากนัก แต่กับคนยากจนหรือคนที่อพยพมาจากถิ่นอื่นนับเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน”
แต่ที่ตำหนักกรมขุนวิมล พวกข้าหลวงยังมีการซ้อมรำเตรียมฉลองวันมหาสงกรานต์กันอย่างรื่นรมย์ จนแมงเม่าทนไม่ได้ถามคุณท้าวที่คุมการซ้อมรำว่า
“คุณท้าวเจ้าคะ สงครามยามนี้ทุกข์หนักนักเราเป็นหญิงไปช่วยรบไม่ได้แต่ก็หาควรจัดงานรื่นเริง ขณะที่ภายนอกกำแพงเมืองกำลังเข่นฆ่ากันตายไม่ใช่หรือเจ้าคะ”
“รบทัพจับศึกเกี่ยวกระไรกับพวกเราด้วยยะ” คุณท้าวเสียงขุ่น “วันมหาสงกรานต์ปีใหม่ก็ต้องมีการรื่นเริงประกวดประชันกันเป็นธรรมดา หล่อนอย่าขวางไปเสียทุกเรื่องนักเลย แลฉันจะบอกให้เด็กอย่างเจ้ารู้ไว้เอาบุญ ถึงหน้าฝน น้ำก็จะท่วมจนพวกอังวะตั้งทัพไม่ได้ต้องยกทัพกลับไปเอง จะกลัวกระไรกับศึกเพียงเท่านี้”
คุณท้าวทิ้งค้อนใส่แมงเม่าแล้วเดินไปหาเป้าแมงเม่าน้ำตาคลอแค้นใจที่ไม่มีใครสนใจบ้านเมืองเลย
ooooooo
ทั้งหลวงพิชัยและพันหาญต่างเชื่อว่าถึงหน้าฝนน้ำหลากพวกอังวะก็จะต้องหนีกลับแล้ว แต่พระยาตากกลับไม่เคยคิดเลยว่าหน้าฝนคราวนี้จะหยุดอังวะได้ แต่ในฐานะแม่ทัพจะพูดให้ทหารเสียขวัญนั้นไม่ควร
เวลาเดียวกัน ในวังก็ยังมีการเตรียมจัดงานฉลองวันมหาสงกรานต์กันอย่างเต็มที่ เมื่อถึงวันงานทุกคนสวมชุดใหม่สวยสด ขนมข้าวต้มทำเสร็จใหม่ๆถูกยกมาเป็นของขวัญ ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสกินทิ้งกินขว้างกัน
กรมขุนวิมลปรารภกับเจ้าจอมอำพันว่าเห็นอย่างนี้แล้วค่อยแช่มชื่นขึ้นมาหน่อย ฟังแต่เสียงปืนใหญ่ทุกวันจนตนจะเป็นบ้าแล้ว เจ้าจอมอำพันขอให้ทนอีกหน่อยข้าศึกใกล้ยกทัพกลับแล้ว ถึงตอนนั้นเราจะจัดงานให้ครึกครื้นกว่ามหาสงกรานต์ปีนี้อีก
แมงเม่าฟังแล้วเศร้าๆถามว่า “พวกอังวะเตรียมศึกมานับปีจะกลับง่ายๆอย่างนั้นหรือเจ้าคะ”
กรมขุนวิมลกับเจ้าจอมอำพันมองแมงเม่างงๆที่พูดจาฟังดูประหลาด เจ้าจอมอำพันเปรยขำๆว่า ก็น้ำท่วมคนเราไม่ใช่ปลาจะอยู่กันอย่างไร กรมขุนวิมลหัวเราะเบาๆบอกแมงเม่าว่า
“เจ้าอย่ากังวลไปเลย บ้านเมืองเรามีเทวดาอารักษ์ มีพระเสื้อเมืองพระทรงเมืองคุ้มครอง ข้าศึกศัตรูทำกระไรไม่ได้ดอก ดูอย่างคราศึกพระเจ้าอลองพญาซี จู่ๆปืนใหญ่ระเบิดจนสิ้นพระชนม์ ไม่ใช่บุญของอโยธยาแล้วจะคือกระไร”
กรมขุนวิมลเดินคุยกับเจ้าจอมอำพันไปอย่างรื่นรมย์ใจ แมงเม่ามองตามหน้าเศร้า เพราะแม้แต่กรมขุนวิมลที่ตนนับถือที่สุดก็ไม่ต่างจากคนอื่น คิดแล้วได้แต่ถอนใจหนัก พึมพำกับตัวเองว่า
“หากเทวดาท่านมีฤทธิ์ถึงเพียงนั้นก็คงไม่ต้องมีดาบแล้วละเพคะ”










