ตอนที่ 11
พระยากำแหงเล่นบทรักต่อไป จับชายสไบของแมงเม่าไว้สบตาเว้าวอน
“ฉันรู้ว่าแม่แมงเม่าไม่ชอบฉัน แต่รักนั้นมันสร้างได้ไม่ใช่หรือ เว้นแต่แม่จะมีผู้อื่นแล้วเท่านั้น”
แมงเม่าอึกอักรู้ใจตัวเองว่าเป็นอย่างไรแต่บอกใครไม่ได้ ตอบพระยากำแหงไปว่าตนไม่มีใคร แต่บ้านเมืองกำลังมีศึกสงคราม พระยากำแหงบอกว่าตนดูออกว่าผู้ที่แมงเม่าสนิทสนมด้วยที่สุดคือออกพระศรีขันทิน แต่ออกพระศรีไม่ใช่ชาย พูดเท่านี้คงเข้าใจ เห็นแมงเม่าคิดเครียดก็พูดให้ผ่อนคลายว่า
“ถ้าแม่ไม่อยากตอบตอนนี้ฉันก็จะไม่บังคับ แต่สักวันฉันจะถามแม่แมงเม่าอีก วันนี้แค่ฉันได้บอกให้แม่รู้ว่าฉันคิดกับแม่อย่างไรได้ ฉันก็พอใจแล้ว” พูดแล้วยกชายสไบขึ้นจูบอย่างถนอม
ขันทองกับเป้าซุ่มดูอยู่ เป้าตื่นเต้นที่พระยากำแหงบอกรักแมงเม่า แต่ขันทองเครียดเพราะตนเผยความลับไม่ได้ ทำให้พระยากำแหงชิงตัดหน้าไป ถ้าแมงเม่าตอบรักพระยากำแหงตนต้องขาดใจตายแน่ กลับไปยิ่งคิดเครียดถามตัวเองว่าจะยอมเสียแมงเม่าไปเพราะเข้าใจว่าตนเป็นขันทีหรือ พูดกับตัวเองว่า...
“ให้เจ้าตัวดีตัดรอนเสียยังดีกว่าต้องจบลงด้วยความเข้าใจผิดเช่นนี้” คิดแล้วลงจากเรือนจะไปหาแมงเม่า ฝ่ายแมงเม่าก็พยายามตัดใจกับขันทองเพราะคิดว่าเป็นขันที อดเสียดายไม่ได้ว่าถ้าไม่ใช่ขันทีก็คงจะดีสินะ
แต่แล้วเสียงปืนใหญ่ที่ดังใกล้มากทำให้ทุกคนตกใจจนลืมทุกอย่างเสียสิ้น
ที่ริมแม่น้ำ มังมหานรธาตะโกนสั่งทหารให้พายเรือเข้าไปใกล้ แล้วยิงข้ามกำแพงเข้าไป น้ำท่วมถึงที่ใดก็ลอยเรือยิงมันไปถึงนั่น
เนเมียวสีหบดีตกใจ นึกไม่ถึงว่ามังมหานรธาเข้าประชิดกำแพงแล้ว ถามทหารว่ารอดหูรอดตาไปได้อย่างไร
“ท่านมังมหานรธาเห็นว่าอโยธยากำลังรับมือทัพเราเป็นหลัก จึงฉวยโอกาสที่อโยธยาไม่ระวังทัพของท่าน ลอยเรือเข้าไปใกล้กำแพงขอรับ” ทหารรายงาน
“เจ้าเล่ห์นัก...สมแล้วที่ผ่านศึกมามากไม่แพ้ท่านอะแซหวุ่นกี้เลย” แล้วตะโกนสั่ง “เตรียมทัพประเดี๋ยวนี้ เราจะยอมให้ทัพของมังมหานรธาได้หน้าแต่เพียงผู้เดียวไม่ได้เป็นอันขาด”
เนเมียวสีหบดีเจ็บใจที่ถูกมังมหานรธาแย่งผลงานไป
ooooooo
ที่ตำหนักกรมขุนวิมล แมงเม่าและพวกขุนนางช่วยกันปิดประตูหน้าต่างเพื่อให้เสียงปืนใหญ่เบาลง กรมขุนวิมลถามว่าทุกคนเข้ามาในตำหนักหมดแล้วรึ แมงเม่าบอกว่าขาดแม่เป้า
คุณท้าวโสภาตกใจ บอกว่าตนใช้เป้าไปตำหนักเสด็จพระองค์หญิงเทพสุดา แมงเม่าจึงอาสาออกไปตาม










