ตอนที่ 10
“น่าสนใจ...ถ้าไอ้เถ้าแก่เสือกับไอ้ชาญยุทธมันไม่สู้ ทุกคนก็ต้องสงสัยในบารมีของนาย...การย้ายข้างมันก็ง่ายยิ่งขึ้น แต่ทำอย่างนี้ฉันก็แทบจะไม่ได้อะไรเลยนะ”
“คุณจะได้คืนจากยาเสพติดของคุณอยู่แล้วนี่คะแล้วจะสนใจเงินเล็กๆน้อยๆจากค่าคุ้มครองไปทำไม...
คนตระหนี่ทำการใหญ่ไม่ได้ จะตกปลาใหญ่แต่เสียดายเหยื่อจะถูกเหรอคะ”
“ก็ได้...ไม่เชื่อเธอแล้วฉันจะเชื่อใคร แล้วเธอคิดว่าไอ้เถ้าแก่เสือจะทำยังไงต่อ เราจะได้แก้เกมถูก”
“ถ้าจัดการกลุ่มต่างๆไม่ได้เฮียก็ต้องหาตัวช่วย เราก็แค่รอจัดการกับตัวช่วยของเถ้าแก่เสือเท่านั้นล่ะค่ะ”
ทรงวาดไม่รู้ถึงแผนการของพันเดชกับไต้เกียวแต่แปลกใจมากกว่าที่บรรดาหัวหน้าแก๊งไม่มีใครตระหนกหรือตกใจการมาถึงของฤทธิ์ซึ่งมีประกาศจับตัวจากทางการ
“ไม่มีใครตกใจหรือสงสัย แสดงว่าทุกคนรู้แล้วว่าคนคนนี้เป็นใคร บางทีอาจทำสัญญาลับๆกันแล้วก็ได้ใช่ไหม”
ฤทธิ์ยิ้มเยาะ ตอบแทนทุกคน “อย่าไปว่าคนอื่นเลย ทุกคนก็ต้องการสิ่งที่ดีกว่า ว่าไงล่ะเถ้าแก่...ถ้าอยากให้ทุกคนกลับไปรับใช้ก็เสนอราคามา...ไม่อย่างนั้น
ก็กลับไปซะ!”
“อั๊วให้ได้แค่ผลประโยชน์ของหกห้อง ที่เหลืออั๊วตัดสินใจแทนไม่ได้ รู้แล้วใช่ไหมว่าการทรยศนายจะมีผลยังไง”
“นายก็แค่อำนาจเก่า จะมีปัญญาคุ้มครองทุกคนเหมือนเมื่อก่อนรึเปล่าก็ต้องทดสอบกันดู”
ขาดคำก็พุ่งใส่ทันที ทรงวาดตั้งรับอยู่แล้ว เห็นฤทธิ์ทำท่าเหมือนเจ็บก็กระชากเสื้อจนเห็นแผลที่ถูกเม่งฮงแทง
“ลื้อฆ่าอาเจ็กอั๊วใช่ไหม”
“ฉลาดสมกับเป็นหลานชายลิ้มเม่งฮง”
ทรงวาดแค้นจัดจะเอาเรื่องถึงที่สุด บรรดาหัวหน้าแก๊งเห็นท่าไม่ดีช่วยกันจับแยก ฤทธิ์เห็นท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงของเถ้าแก่หนุ่มคนดังแห่งเยาวราชก็สะใจทิ้งท้ายเสียงหยัน
“วันนี้งานประชุมท่าจะล่ม...กลับไปคิดเองแล้วกันว่าบารมีนายยังเหมือนเดิมรึเปล่า แล้วใครให้ผลประโยชน์ได้มากกว่ากัน...แล้วเจอกันใหม่นะเถ้าแก่”
ooooooo
ทรงวาดเจ็บใจมากคิดดึงตำรวจมาช่วย แต่ไต้เกียวรู้ทันและบอกให้พันเดชใช้สายสัมพันธ์ภายในพรรคการเมืองที่สังกัดให้เป็นประโยชน์
“ตำรวจ...สนใจแค่ไม่มีเรื่องเดือดร้อนเท่านั้น ส่วนใครจะมีอำนาจเขาไม่ใส่ใจหรอก ไม่ว่าจะคุณหรือนาย”










