ตอนที่ 10
คำพูดเตือนสติของแปะฮ้อทำให้ทรงวาดคิดหนัก ทบทวนสิ่งที่ตัวเองทำแล้วตัดสินใจได้ เมื่อปิ่นมุกทำตามแผนร่วมกับสมาชิกคนอื่นในบ้านขโมยข้าวในโรงสีไปขายเขาจึงไม่แย้งแถมช่วยจัดระเบียบลูกค้าให้อีกต่างหากคือซื้อได้คนละห้ากิโลกรัมเพื่อกระจายข้าวให้ทั่วถึงทุกคน
ปิ่นมุกแปลกใจมากเพราะทรงวาดไม่ต่อว่าใครเลย กระทั่งเธอแอบได้ยินเขาคุยกับทิเหล็งคืนเดียวกันว่ากำไรที่ได้จากการแบ่งข้าวไปขายน้อยกว่าที่ชาญยุทธต้องการจึงช่วยทรงวาดรับผิดชอบด้วยการบุกบ้านชาญยุทธเช้าวันต่อมาแล้วยื่นข้อเสนอจะยกตึกหกห้องให้แลกกับการให้เขาเลิกยุ่งกับทรงวาด
ชาญยุทธโกรธจัด “อวดดี! คิดว่าทำแค่นี้แล้วจะจบเหรอ เสือไม่ได้เล่าให้เธอฟังรึไงว่าพวกเราทำงานอะไรกัน”
“เล่าค่ะ แล้วฉันก็ทราบว่ากฎของคนเป็นนักเลงเมื่อขัดคำสั่งนายก็ต้องรับโทษ ไม่อย่างนั้นจะเสียการปกครอง ฉันถึงได้เสนอที่จะยกตึกแถวให้คุณนี่ไงล่ะคะ”
“เธอก็ส่วนเธอ เสือก็ส่วนเสือ มันแทนกันไม่ได้หรอก แล้วที่ฉันต้องลงโทษเสือก็เพราะความโง่เง่าไม่มีหัวคิดของเธอนั่นแหละ เธอทำให้เสือขัดคำสั่งฉันดึงเสือให้ตกต่ำลง เงินทองมากขนาดไหนก็ชดเชยไม่ได้ทั้งนั้น”
“ฉันยอมรับค่ะว่าเป็นต้นเหตุให้เฮียขัดคำสั่งคุณ แต่ฉันไม่เคยดึงเฮียให้ตกต่ำลง ตรงข้ามฉันทำให้เฮียหลุดพ้นจากการเป็นเครื่องมือของคุณต่างหาก!”
ooooooo
วิสูตรนับถือความใจกล้าของปิ่นมุก สงสารและไม่อยากให้ชาญยุทธทำเรื่องรุนแรงกับเธอจึงโทร.บอกทรงวาด ทรงวาดร้อนใจมากผลุนผลันไปบ้านพี่ชายบุญธรรมพร้อมทิเหล็ง
ปิ่นมุกไม่กลัวชาญยุทธ ต่อปากต่อคำกับเขาเพื่ออิสรภาพของทรงวาด
“คุณไม่เคยรักเฮียอย่างน้องเลยสักนิด คนเราถ้ารักกันจริงก็ต้องคำนึงถึงจิตใจของอีกฝ่ายด้วยแต่คุณฝืนใจเฮียทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่คุณต้องการ คุณก็แค่หลอกใช้เฮียไปวันๆเท่านั้นแหละ”
“ฉันน่ะเหรอหลอกใช้เสือ เธอจะรู้อะไร ตอนที่ฉันเจอเขาเขายังเป็นเด็กตัวนิดเดียว ฉันรู้จักเขามากกว่าเธอซะอีก สิ่งที่ฉันให้เขาทำมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว เธอต่างหากที่ทำให้เขาไขว้เขว”
“คุณเคยเห็นเฮียตัวสั่นเพราะความกลัว เคยเห็นเฮียร้องไห้เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปไหมคะ ถ้าไม่เคยอย่ามาบอกว่ารู้จักเฮียดีกว่าฉันเลยค่ะ”










