ตอนที่ 10
ฤทธิ์ไม่สะทกสะท้านหรือรู้สึกผิด ยอมรับกับเม่งฮงอย่างภาคภูมิใจว่าเป็นคนแทงลี่เง็กก่อนทิ้งให้ฮุ่ยเซี้ยงกับลูกน้องคนอื่นจัดการโยนเธอลงคลองเพื่อป้ายความผิดให้รณชิต
เม่งฮงแค้นจัด ยิ่งรู้ว่าไต้เกียวมีส่วนกับเรื่องทั้งหมดก็รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายคว้าเก้าอี้ฟาดฤทธิ์แล้วหันปลายแหลมของขาเก้าอี้ไปทางไต้เกียว ไต้เกียวหน้าซีดก่อนเบิกตาโพลงเมื่อฤทธิ์จ้วงแทงเม่งฮงจากด้านหลัง เม่งฮงกระอักเลือดแต่ไม่ทิ้งลายนักเลงฮึดจับขาเก้าอี้ที่หักแทงแขนฤทธิ์จนเลือดอาบ!
กว่าทรงวาด เฮ้งเตี๋ยง พริ้มเพราและรณชิตจะมาถึงโรงน้ำชา เม่งฮงก็ขาดใจตายแล้ว ฤทธิ์พาไต้เกียวหนีทิ้งไว้แต่เพียงคราบเลือดบนปลายขาเก้าอี้ซึ่งทรงวาดจะใช้เป็นหลักฐานสืบหาตัวการและคราบน้ำตาของเฮ้งเตี๋ยงที่ร่ำไห้อย่างหมดอาย ทรงวาดสงสารปลอบลูกพี่ลูกน้องหนุ่มเสียงอ่อนแต่หนักแน่น
“อั๊วให้สัญญาอาเตี๋ยง อาเจ็กต้องไม่ตายเปล่า!”
พันเดชพอใจผลงานมากให้เงินรางวัลฤทธิ์ก้อนใหญ่ ไต้เกียวมองมาด้วยความหมั่นไส้ปนไม่ชอบใจ
แต่รอกระทั่งอีกฝ่ายลับตาจึงโวยวายกับพันเดช
“คุณไม่น่าให้เงินมันเลย เพราะความประมาทของมันแท้ๆทำเอาฉันเกือบซวยไปด้วย”
“อย่าคิดมากน่า ความผิดพลาดนิดหน่อยถ้าเทียบกับผลงานที่ออกมาก็ถือว่ารับได้”
ไต้เกียวยังงอน พันเดชแอบรำคาญแต่จำต้องปั้นหน้าง้อเพราะยังต้องใช้ประโยชน์จากเธอ
“อย่างอนไปหน่อยเลยน่าบอกมาซิว่าฉันต้องทำยังไงต่อ”
“ฉันจัดการทุกอย่างหมดแล้ว คุณรอดูเยาวราชลุกเป็นไฟได้เลย!”
การตายของลิ้มเม่งฮงทำให้สถานการณ์ระหว่างแก๊งในเยาวราชระส่ำระสาย ทรงวาดหนักใจมากแต่ยังไม่มีเวลาหารือกับชาญยุทธเพราะต้องจัดงานศพของอาแท้ๆ
ปิ่นมุกเห็นสภาพเครียดจัดของเขาก็อดปลอบไม่ได้
“ขอบใจมากนะอาจู ความจริงลื้อจะไม่มางานศพอาเจ็กก็ได้แต่นี่ลื้อกลับจัดการทุกอย่างให้หมดเลย”
“อั๊วบอกแล้วไงว่าอั๊วไม่เคยลืมสิ่งที่ลิ้มเม่งฮง
ทำไว้กับอั๊วแต่อั๊วก็ปล่อยวางความแค้นไปหมดแล้ว ที่อั๊วช่วยงานศพก็เพราะคนคนนี้เป็นอาเจ็กของเฮีย...ก็เท่านั้นเอง”
“ลื้อรู้ไหมว่าอาเจ็กเคยพาอั๊วมาที่วัดนี้ตอนเด็กๆ ด้วยนะ”
ปิ่นมุกทำหน้าไม่เชื่อ ตั้งท่าจะพูดแต่ถูกทรงวาดดักคอ “ไม่ต้องตีรวนอั๊ว...คนอย่างอาเจ็กไม่ได้มาไหว้พระแน่ อาเจ๊กพาอั๊วมาขอข้าววัดที่นี่กิน ตอนนั้นบ้านอั๊วจนมาก อาม้าตายอาป๊าก็ไม่ค่อยสบาย อาเจ็กคนเดียวหาเลี้ยงทั้งครอบครัว ถึงอีจะเลวร้ายแค่ไหนแต่สำหรับอั๊วอีมีบุญคุณเทียบเท่ากับอาป๊าเลยด้วยซ้ำ”










