ตอนที่ 10
นอกจากการตายอย่างกะทันหัน เม่งฮงยังทำให้ทุกคนแปลกใจด้วยการทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติทุกอย่างให้ทรงวาดกับลี่เง็ก แต่ลี่เง็กตายแล้ว ทุกสิ่งเลยเป็นกรรมสิทธิ์ของทรงวาด
ทรงวาดไม่คาดฝันมาก่อน แต่คิดดีแล้วจะแบ่งสมบัติครึ่งหนึ่งในเฮ้งเตี๋ยง ส่วนอีกครึ่งแบ่งให้บรรดาลูกน้องและแก๊งพันธมิตรที่ร่วมเป็นร่วมตายกับเม่งฮงตั้งแต่ต้น ส่วนตึกหกห้องหรือโรงน้ำชาในปัจจุบันเขาจะคืนให้ปิ่นมุก
ปิ่นมุกตกใจมาก อ้าปากจะค้านแต่ทรงวาดตัดบทดื้อๆ
“ถ้าอาเจ็กไม่โกงมามันก็เป็นของลื้อตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว อั๊วก็แค่คืนมันให้เจ้าของที่แท้จริงเท่านั้นเอง”
การตัดสินใจของทรงวาดทำให้ทุกคนอึ้งมาก ปิ่นมุกไม่อยากเชื่อแต่ก็ปลื้มในตัวเขามาก
“เฮีย...ถ้าอั๊วจะขายตึกหกห้องเฮียจะว่าอะไรไหม”
“มันเป็นของลื้อแล้ว อยากทำอะไรก็แล้วแต่ลื้อสิ”
“ถ้าอั๊วมีเงินเป็นสิบล้านอั๊วจะไปเที่ยวรอบโลกเลยนะ”
“ก็ไปสิ...แต่อั๊วไปด้วย”
“ไม่! อั๊วจะไปกับคนอื่น เบื่อพวกตี๋ๆแล้ว อั๊วอยากได้แบบฌอน คอนเนอรี่”
ปิ่นมุกแกล้งกระเซ้าว่าจะนอกใจเขาไปหาหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าว ทรงวาดมันเขี้ยวดึงเธอมากอดขำๆก่อนพูดไม่ออกเมื่อรู้ว่าเกิดเหตุระเบิดกลางเยาวราช!
ทรงวาดไม่รอช้าไปหาชาญยุทธที่บ้านเพื่อหารือปัญหาความขัดแย้งระหว่างแก๊งในเยาวราช
“พี่คิดไว้แล้วว่าหลังอาของเสือตายต้องเกิดการแย่งชิงอำนาจกัน ใครๆก็อยากได้ผลประโยชน์ของหกห้องทั้งนั้น”
“เราจะปล่อยไว้นานไม่ได้นะครับ ผมขอเสนอให้มีการแบ่งผลประโยชน์กันใหม่เพื่อที่ทุกกลุ่มจะได้พอใจ”
“จะต้องทำอย่างนั้นทำไม ผลประโยชน์ของหกห้องควรเป็นของเสือทั้งหมดอยู่แล้ว อย่าโกรธพี่เลยนะ...อาของเสือเป็นตัวปัญหา ยิ่งหลังๆยิ่งก่อแต่เรื่อง จบอย่างนี้ซะก็ดีแล้ว”
“ผมทำไม่ได้หรอกครับ ที่ผมดิ้นรนทำโรงสีเพราะไม่อยากยุ่งกับบ่อนและโรงน้ำชา”
“แต่ถ้าเสือไม่ทำมันก็หยุดการสู้กันไม่ได้หรอก เชื่อพี่...ขึ้นมาแทนอาซะ อย่าปล่อยให้โอกาสดีๆหลุดลอยไป”
“พี่อ้ายว่าการตายของอาเจ็กผมเป็นโอกาสดีๆ อย่างนั้นเหรอครับ...”
ชาญยุทธหน้าเจื่อน ไม่ทันตอบคำถามน้องชายบุญธรรมก็ต้องผละไปรับสายสมาชิกพรรคการเมืองคนอื่น ทิ้งทรงวาดให้มองตามด้วยแววตาเจ็บช้ำ ทั้งน้อยใจและหวาดระแวง...หรือว่าคนบงการฆ่าเม่งฮงจะเป็นคนใกล้ตัว!










