สองนรี
ตอนที่ 9
“ฉันยอมรับว่าวันนั้น ฉันไม่พอใจที่เธอไม่ทำตามคำขอของฉัน แล้วฉันก็กลัวเธอแย่งแม่ไปจากฉัน แต่ฉันคิดแล้วก็โกรธตัวเองที่คิดบ้าๆ เรามีแม่คนเดียวกันเราควรจะรักกันให้มาก เราจะได้ช่วยดูแลแม่ด้วยกัน ให้ฉันทำหน้าที่พี่สาวได้ไหม เธอไม่ต้องตอบฉันตอนนี้ก็ได้ ถ้าเธอยอมรับฉันเป็นพี่พาพี่ไปกราบขอโทษคุณอาทั้งสอง”
สองยังคงนิ่งไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ หนึ่งผละไปปล่อยให้เธอใช้เวลาครุ่นคิดเรื่องนี้...
เลิกงานสองกลับถึงบ้าน เจอป้าแขออกมาต้อนรับถามว่าอาดาวเป็นอย่างไรบ้าง ป้าแขสีหน้าเป็นกังวลเพราะรู้ว่าพะวงดาวเสียใจที่สองไปหาปรียาได้แต่บอกว่าท่านอยู่ที่ห้องอาหาร สองรีบไปหาเห็นท่านกำลังกินข้าวอยู่โดยมีป้าแขตามมาด้านหลัง
“สองขอโทษด้วยนะคะกลับมาค่ำเลย อาหารน่ากินทั้งนั้นเลย” พูดจบสองนั่งที่เก้าอี้ประจำของตัวเอง พะวงดาวยังงอนหลานรักไม่หาย รวบช้อนส้อมบอกป้าแขว่าอิ่มแล้ว เตรียมจะลุก สองรู้ว่าท่านยังงอนอยู่พยายามง้อขอคุยด้วย ท่านทำเมินเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุไม่พูดด้วยไม่มองหน้า เดินหนีขึ้นห้องไปเลย สองมองตามเสียใจที่พะวงดาวยังไม่หายโกรธ ป้าแขเข้ามาปลอบ
“อาเขารักมากก็เสียใจมาก หนูสองต้องอดทนนะคะ”
“ค่ะป้าแข” สองตั้งใจมั่นจะต้องง้อพะวงดาวให้ได้
ooooooo
อาตม์แวะไปหาสองที่แกลเลอรีแต่เช้า เห็นกำลังง่วนกับงานศิลปะอยู่ ย่องเข้าไปทางด้านหลังหวังแกล้งให้ตกใจแต่เธอเห็นเขาจากเงาสะท้อนในกระจกหันไปทักทายเสียก่อน เขาถึงกับบ่นอุบที่ผิดแผน สองกระเซ้าเมื่อเห็นอาตม์ถือถุงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ในมือ
“เช้านี้มีอะไรคะ คงไม่ได้ตั้งใจมาเล่านิทานปาท่องโก๋ให้ฉันฟังอีก”
สารวัตรหนุ่มไม่ได้แค่มาชวนสองดื่มน้ำเต้าหู้กินปาท่องโก๋เท่านั้น แต่มาเพื่ออธิบายเรื่องที่หนึ่งพูดว่าเขาไปช่วยชีวิตเธอในป่าข้างทางและไล่ล่าคนร้ายไปถึงเตียงในโรงแรมม่านรูดโดยใช้นิทานเจ้าชายเจ้าหญิงเป็นตัวปูทาง ก่อนวกเข้าเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
“ผมเคยเข้าใจผิดว่าคนร้ายจับตัวคุณไปม่านรูด แต่พอช่วยได้ ผู้หญิงคนนั้นคือคุณหนึ่งพี่สาวคุณ ผมอยากเล่าให้ฟังว่าที่คุณหนึ่งเคยพูดว่าผมรู้จักเขา
มาก่อนและเราเคยอยู่ด้วยกันในม่านรูดเป็นเรื่องจริง แต่เป็นการเข้าใจผิดและผมกับคุณหนึ่งไม่เคยล่วงเกินต่อกัน”
“คุณเล่าให้สองฟังทำไมคะ”
“ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมบริสุทธิ์ใจ ผู้ต้องหาคนนี้ยินดีตอบทุกข้อสงสัยครับ”
“คุณไม่ใช่ผู้ต้องหาของฉัน”
“ขอเป็นผู้ต้องใจได้ไหมครับ...ล้อเล่นครับ คุณสองอยากรู้เรื่องอะไรผมยินดีตอบทุกคำถามที่คาใจครับ”
