ตอนที่ 8
นิราศกลับไปที่เรือนจางวางพ่วงอีก ไปมองจุดที่เห็นพิกุลเมื่อคืนแต่ไม่เห็นอะไรแล้ว แปลกใจว่าไม่มีใครอยู่จริงๆ แต่ที่แท้อ่ำยืนมองอยู่หลังเสา และจางวางพ่วง เพียร สุดก็ยืนมองเขาอยู่เป็นตาเดียว
นิราศได้ยินเสียงดังจากห้องหนึ่งจึงเดินไป
เห็นเงาผ่านไปวูบหนึ่ง ตามไปดูเห็นพิกุลทัดดอกปีบนั่งหันหลังทำอะไรอยู่ นิราศกระแอมให้รู้ตัว พอพิกุลวางมือจากตัดใบตาลทำกำพรวดปี่ นิราศขอโทษ ถามว่าเข้าไปได้ไหม
เมื่อพิกุลอนุญาต นิราศเข้าไปขอบคุณที่ช่วยตนเมื่อคืนนี้ นิราศมองสไบพิกุลอย่างจำได้ พิกุลรู้ตัวหันมาสบตาแว่บหนึ่งถามว่าไม่คุ้นหรือเจ้าคะ
นิราศยิ้มให้เห็นมีดกำลังจะบาดนิ้วพิกุลร้องบอกให้ระวัง แต่พิกุลเหมือนตั้งใจให้มีดบาด นิราศรู้สึกผิดที่ชวนคุยทำให้มีดบาดมือ แต่พิกุลพูดเป็นนัยว่า
“แผลเท่านี้ไม่นานก็หาย...แต่แผลที่เจ็บลึกทั้งที่ไม่มีบาดแผลนั้น เกินรักษาเยียวยา”
“ไม่มีแผลแล้วเจ็บอย่างไร” นิราศงง พิกุลไม่ตอบลุกเดินไป ดอกปีบที่ทัดร่วงลง นิราศเก็บขึ้นมามองเหมือนจำได้จึงขอเก็บไว้ พิกุลนิ่งเขาจึงส่งคืน แต่พิกุลบอกให้เก็บไว้เถิด นิราศเอาผ้าเช็ดหน้าห่อเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ ก็พอดีพิกุลบอกว่ามีคนมาตามเขาแล้ว
สมคิดนั่นเอง นิราศถามพิกุลว่าตนจะขอกลับมาที่นี่อีกได้ไหม พิกุลตอบว่า “อย่างไรก็ต้องกลับมาเจ้าค่ะ” นิราศเดินลงเรือนไปอย่างอาลัยอาวรณ์ พิกุลตัดใบตาลต่อ ใบมีดที่วาววับสะท้อนสีหน้าพิกุลที่น่าสะพรึง!
นิราศลงเรือนมาแปลกใจว่าทำไมสมคิดรู้ว่าตนมาที่นี่ สมคิดบอกว่าดูจากจดหมายสนเท่ห์ ถามว่าแล้วเรื่องที่ดินเป็นอย่างที่จดหมายว่าไว้หรือเปล่า นิราศบอกว่านั่นเป็นเรื่องที่สมคิดต้องทำให้ชัดเจน แต่สิ่งที่กำนันทำกับตนมันก็เข้าเค้า
สมคิดว่าถ้าอย่างนั้นตนจะทวงเงินมัดจำคืน นิราศว่าตนไม่เสียดายเงินเท่ากับความถูกต้อง ถ้าพิสูจน์ว่ากำนันโกงที่วัดจริงตนก็ต้องตัดใจคืนที่ดินตรงนี้ให้เป็นของวัดตามเดิม
สมคิดถามว่าจะให้ตนหาที่ริมน้ำเผื่อไว้ไหม ถ้าอยากได้เรือนสวยๆก็จะหาช่างปรุงเรือนให้
“ไม่ใช่แค่ตัวเรือนหลังนี้หรอกสมคิด” นิราศบอกยิ้มๆ สมคิดสงสัยว่าถ้าไม่ใช่แค่เรือนแล้วคืออะไร?










