ตอนที่ 12
สนธยาแค่มาส่งข่าวแล้วรีบกลับไปบ้านศรศิลป์อย่างเดิม ซึ่งเป็นเวลาที่ศรศิลป์กำลังไล่บี้เอากับด็อกเตอร์วิมว่าสนธยาหายไปไหน
“ผมไม่รู้ เช้านี้พอตื่นมาสนก็ไม่อยู่ในนี้แล้ว แต่เมื่อคืนนี้สนพูดถึงเชิดวุธ บอกว่าเป็นห่วงเชิดวุธ”
“เรื่องระเบิดเหรอ”
“ใช่ เรื่องนั้นแหละ”
“ผมบอกแล้วไงว่าเรื่องนี้ผมจัดการเอง”
สนธยากลับเข้ามาได้ยินพอดี “ใช่...คุณบอก แต่ดูเหมือนคุณไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไรเลยนี่ ฉันก็เลยคิดว่าทางที่ดีที่สุดคือต้องไปบอกวุธด้วยตัวเอง”
ศรศิลป์หันขวับไปกระชากแขนเธออย่างขุ่นเคือง “นั่นไม่ใช่ทางที่ดีที่สุดหรอก ทางที่ดีที่สุดคืออยู่เฉยๆ ปล่อยให้ผมจัดการด้วยวิธีของผม ซึ่งผมก็ได้ทำไปแล้ว... ทำไมถึงไม่เชื่อกันบ้าง ถ้าผมบอกจะจัดการให้ ผมก็จะทำตามที่รับปากไว้”
“โอ๊ย...นี่คุณทำฉันเจ็บนะ”
ศรศิลป์ปล่อยแขนเธอทันที “ขอโทษ แต่คุณก็ทำให้ผมโกรธเหมือนกัน”
“ทำไมเรื่องแค่นี้คุณต้องโกรธด้วย”
“ผมบอกแล้วไงว่าผมห่วงเรื่องความปลอดภัยของคุณ”
“ไม่จริง”
“ไม่จริงยังไง”
“คุณกลัวต่างหาก กลัวว่าถ้าฉันออกไปจะเอาความลับของคุณไปบอกใครๆ โดยเฉพาะเชิดวุธ”
“นี่คุณคิดอย่างนี้จริงเหรอ”
“ใช่”
“ถ้างั้นก็ตามใจคุณเลย คุณจะอยู่ที่นี่ต่อ หรือจะไปอยู่ที่ไหน ก็ตัดสินใจได้เลย แต่ขอบอกว่าถ้าก้าวออกจากที่นี่ไปอีกแม้แต่ก้าวเดียว ผมจะไม่รับรองความปลอดภัยของคุณ”
ศรศิลป์พูดจบก็เดินหนีไป ทิ้งให้สนธยายืนอึ้ง เธอรู้สึกผิดขึ้นมาที่คำพูดของเธอทำให้เขารู้สึกไม่ดีเช่นนี้ ขณะเดียวกันที่บ้านเชิดวุธ หลังจากเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดมาถึงและพบว่าวงจรระเบิดถูกทำลายไปก่อนหน้านี้ เชิดวุธเชื่อว่าต้องเป็นฝีมือพรานจอมภูต ที่แอบมาช่วยชีวิตเขาไว้อีกแล้ว
สนธยารู้สึกผิดที่ใจร้อนเกินไป เธอเดินตามมาเพื่อจะขอโทษ แต่บังเอิญเห็นศรศิลป์นั่งดูรูปถ่ายของเขากับผู้หญิงคนหนึ่ง จึงทักว่า
“คุณคงรักเธอมากสินะ...ฉันหมายถึงผู้หญิงในรูปนั่นน่ะ ถ้าให้เดา เธอคงเป็นคนรักของคุณ”
“ใช่ เราคงได้แต่งงานกัน ถ้าเขาไม่จากไปซะก่อน”
“ฝีมือพวกพรายดำใช่ไหม”
ศรศิลป์ตอบรับเสียงแผ่ว สนธยานั่งลงใกล้ๆเขาด้วยความรู้สึกสงสารและเห็นใจ
“เพราะอย่างนี้เอง คุณถึงได้แค้นพวกนั้นนัก”
“ก่อนหน้านี้งานที่ผมได้รับมอบหมายคือจัดการกับพวกพรายดำอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับปรายฟ้า ทำให้ผมรู้ว่าถ้าจะจัดการคนพวกนั้น เราต้องใช้วิธีเดียวกับพวกมัน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน แบบไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆทั้งสิ้น”
“แล้วพราน จอมภูต ก็ถือกำเนิดขึ้นมา?”










