ตอนที่ 3
“เธอเลือกเอาว่าจะเอาเงินหมื่นนึงหรือให้ฉันเข้าไปหาเธอเอง” ไม่ขู่เปล่าปพลลงจากรถเดินมาที่ประตูรั้ว ปานตะวันมองลงมาจากหน้าต่างห้องเห็นเขาจะกดกริ่ง ร้องห้ามเสียงหลงว่าอย่าทำ เดี๋ยวเธอจะออกไปหา ครั้นมาถึงรถของเขา ปพลสั่งให้เธอขึ้นรถ เธอไม่ยอมขึ้น หากเขามีอะไรจะคุยด้วยก็ให้พูดมาเลย เขาเลยแกล้งบีบแตรเสียงดัง ปานตะวันกลัวจันทนีตื่นจำใจขึ้นรถ ปพลออกรถทันที เธอสงสัยนี่เขาจะพาไปไหน
“หาอะไรดื่ม มีที่ไหนแนะนำไหม”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ชอบเที่ยวกลางคืน”
“อย่างเธอนี่นะไม่ชอบเที่ยวกลางคืน อ้อใช่สิ ชอบทำงานบริการกลางคืนมากกว่า ได้เที่ยวด้วยได้เงินด้วย เผลอๆมีคนเลี้ยง” ปพลไม่วายแดกดัน ปานตะวันชักเคืองที่เขาคอยจิกกัดก็เลยเอาคืนด้วยการ ขอเงินเพิ่มอีกหนึ่งหมื่นบาทเพราะที่ตกลงกันไว้ไม่ได้ระบุว่าเธอต้องออกมาเที่ยวกับเขา
“งก” ปพลแกล้งทำเสียงเข้มแต่ลึกๆแอบดีใจที่เธอยอมมาด้วย
ooooooo
ไม่นานนักปพลพาปานตะวันมาที่โรงแรมหรู แห่งหนึ่ง แล้วตรงไปที่ลิฟต์ เธอหวั่นใจกลัวเขาจะเล่นไม่ซื่อทำท่าจะกลับ เขาไม่ยอมให้ไปในเมื่อ จ่ายเงินเธอแล้วจะกลับตอนนี้ไม่ได้
เธอทักท้วงถ้าอยากคุยกันคุยที่ไหนก็ได้ทำไมต้องมาคุยที่นี่ ถ้าอย่างนั้นเธอขอยกเลิกข้อตกลงของเราวันนี้ เขาไม่ยอมให้ยกเลิก ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะเหมือนพวกเสี่ยๆที่เคยพาเธอมา
“ฉันไม่มีทางคิดอะไรแบบนั้นกับเธอเด็ดขาดยัยแมวยั่วสวาท ต่อให้เธอยั่วฉันให้ตาย ฉันก็ไม่เอาหรอกจะบอกให้ มานี่” พูดจบปพลดึงมือปานตะวันเข้าลิฟต์ พาไปยังผับซึ่งตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม เธอเห็นว่าดึกแล้ว เร่งเขามีอะไรจะพูดกับเธอก็ให้พูดมาได้เลย
เขากลับพูดจาประชดประชันเธอต่างๆนานา และยังถามถึงอานนท์ตกลงว่าเธอชอบเพื่อนของเขาหรือแค่จะใช้เป็นสะพาน เธอถึงกับถอนใจเซ็งไม่รู้จะพูดอย่างไรให้เขาเข้าใจ
“ฉันถามเธอจริงๆเถอะ ทำไมถึงอยากมาเป็นนักร้อง เพราะเงิน ชื่อเสียง หรืออะไร”
“คุณมีคำตอบอยู่ในใจแล้วหรือยัง ถ้าคุณมีคำตอบอยู่แล้วฉันก็ไม่รู้จะพูดไปทำไมเพราะทุกครั้งที่ฉันอธิบายอะไร คุณก็ไม่เห็นอยากจะฟัง”
ชายหนุ่มอ้างว่าเนื่องจากเธอจะมาเป็นนักร้องในสังกัดของเขาก็เลยอยากรู้จักเธอมากขึ้น อยากรู้ว่า สิ่งที่เธอต้องการคืออะไรเพราะเขาไม่อยากพลาดที่เลือกคนผิด ปานตะวันเห็นสายตาจริงจังของเขาไม่กล้าสบตาด้วย เสมองทางอื่นก่อนจะบอกว่า
“มันเป็นความฝันของฉันและเป็นสิ่งที่ฉันคิดว่าฉันทำมันได้ดีที่สุด มันหล่อเลี้ยงชีวิตแล้วก็หล่อเลี้ยงหัวใจ มันให้ความสุขกับฉันเวลาที่ฉันไม่มีใคร หล่อเลี้ยงฉันในเวลาที่ฉันทุกข์ บางทีมันไม่จำเป็นว่าฉันต้องเป็นนักร้องออกเทปแค่ฉันมีความสุขที่จะทำ เพราะมันคือความรัก ที่ไม่ว่ามันจะอยู่ จุดไหน ฉันก็รักมันอยู่ดี”
แววตาเปี่ยมไปด้วยความสุขระหว่างที่ปานตะวันพูด แผ่มาถึงปพลด้วย ทำให้อบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกเผลอยิ้มออกมา แต่ในใจของเขายังรู้สึกต่อต้านไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองรู้สึกดีๆกับเธอมากขึ้น จัดแจงลุกพรวดขอตัวไปห้องน้ำแล้วเดินไปเลย ปานตะวัน มองตามงงๆที่อยู่ๆเขาก็หงุดหงิดขึ้นมาอีก...










