ตอนที่ 13
ในเวลาไล่เลี่ยกัน อานนท์กำลังจัดข้าวของเพื่อเตรียมตรวจคนไข้ มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นก่อนหญิงสาว ในชุดพยาบาลจะเดินเข้ามา เขามัวแต่ง่วนกับการจัดของบนโต๊ะพูดขึ้นโดยไม่ได้มองคู่สนทนา
“เอ่อ ริสาครับ เมื่อวานนี้หมอขอโทษนะครับ แต่หมออธิบายได้” ว่าแล้วอานนท์เงยหน้ามองต้องชะงักที่เห็นว่าคนคุยด้วยไม่ใช่ริสา “แล้วริสาล่ะ”
“ริสาขอย้ายแผนกค่ะ”
อานนท์ร้องเอะอะริสาย้ายไปทำไม พยาบาลเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วถามเขาจะให้เชิญคนไข้เข้ามาเลยไหม เขานิ่งเงียบไม่ตอบเธอจึงถามซ้ำอีกครั้ง อานนท์พยายามตั้งสติพักเรื่องริสาไว้ก่อนเพราะต้องทำงาน จึงบอกให้เธอเชิญคนไข้เข้ามาได้เลย...
สายมากแล้วธนาคิมเพิ่งรู้สึกตัวตื่นขึ้น เห็นเพดานห้องชัดเจนขึ้น รีบยกมือตัวเองขึ้นมามองเห็นมือตัวเองชัดเป็นปกติก็ดีใจมาก แล้วหันมองไปข้างๆไม่เห็นพิมพ์ชนก นอนอยู่ก็ตกใจ นึกว่าเธอหนีเขาไปแล้วรีบวิ่งออกจากห้อง ไม่ได้หยิบไม้เท้าขาวติดไปด้วย เขานึกขึ้นได้รีบวิ่งกลับมาเอาแล้ววิ่งออกไปอีกครั้ง เจอเธอยืนเหม่อใจลอยออกไปนอกหน้าต่างก็ยิ้มโล่งอก แสงอาทิตย์จับมาที่ใบหน้าของเธอช่างสวยเหลือเกิน
เขาลังเลจะบอกเรื่องมองเห็นให้เธอรู้ดีไหม แต่แล้วเปลี่ยนใจไม่บอกดีกว่า ขืนบอกก็หมดสนุกกันพอดี แล้วแกล้งใช้ไม้เท้าคลำทางไปหา พลางเรียกหาว่าเธออยู่ไหน เธอตื่นจากภวังค์หันไปเห็นเขาเดินคลำทางก็ร้องบอกว่าอยู่ตรงนี้ ครั้นเขาไปถึงตัวเธอก็ดึงมากอดไว้แน่น
“อยู่นี่เอง ผมตื่นมาหาคุณไม่เจอ นึกว่าคุณจะทิ้งผมไปแล้ว” ธนาคิมอ้อนสุดๆ
“ฉัน...ทำไมฉันต้องทิ้งคุณด้วยคะ”
“ก็เมื่อคืน...” ธนาคิมยังพูดไม่ทันจบพิมพ์ชนกรีบปิดปากเขาไว้ ขอร้องอย่าพูดอะไร มันเป็นแค่ความฝัน ถ้าเป็นอย่างเธอพูด เขาก็ยังไม่อยากตื่นแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เธอหันหน้าหนีขอร้องอย่าทำแบบนี้
“ผมพูดจริงนะพิมพ์ ผมยังไม่อยากตื่น อย่าเพิ่งปลุกผมได้ไหม...ได้โปรดนะครับพิมพ์ ขอผมฝันต่ออีกนิด ได้ไหม นะครับ นะ” ธนาคิมทั้งออดอ้อนทั้งอ้อนวอน สีหน้าแววตาน่าสงสารของเขาทำให้พิมพ์ชนกซึ่งรักเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วใจอ่อนยวบ มองเขาด้วยสายตาเปี่ยมรักไม่มีปิดบังเพราะคิดว่าเขาไม่เห็น ธนาคิมเห็นเต็มสองตายิ้มแก้มแทบปริ ดึงเธอมาจูบอย่างดูดดื่ม พิมพ์ชนกปล่อยใจไปตามเสียงหัวใจเรียกร้อง พร่ำบอกกับตัวเอง
“นี่แค่ความฝันเท่านั้น ขอฝันต่ออีกสักนิด”










