ตอนที่ 15
แก้วเดินหามะลิทั่วเรือน มิ่งขึ้นมาเรียกมะลิ แก้วไม่พอใจถามว่าทำไมยังไม่ไปจากเรือนนี้ มิ่งสวนทันควันว่า
“ข้าไม่ไป! จนกว่าข้าจะเจอหน้าลูก ลูกข้าอยู่ไหน”
“เอ็งหุบปากแล้วอยู่เฉยๆ อย่าให้พวกบ่าวสงสัย ข้าจะตามหาลูกเอง”
แก้วสะบัดเสียงใส่ มิ่งไม่รอ แยกไปตามหาอีกทางด้วยตัวเองอยู่ขุดดินใต้ต้นไม้ใหญ่ลงไป จอบกระทบของแข็งบางอย่างก็แปลกใจ จะเอามือคุ้ยดูก็พอดีเสียงฉ่ำตะโกนเรียกให้ไปช่วยขนของ เทพกลับจากจวน อยู่จึงบอกมะลิ
“กระผมจะมาขุดแล้วลงต้นดอกพุดจีบให้ คุณหนูกลับเรือนก่อนนะขอรับ”
อยู่วิ่งไป มะลิจะเดินกลับ แต่รู้สึกบางอย่างจึงหันมองแล้วเดินกลับไปที่หลุม นั่งลงเขี่ยดินเห็นกล่องไม้เก่าๆมีผ้ายันต์และสายสิญจน์พันอยู่ ด้วยความเก่าจึงทำให้หนูน้อยดึงออกอย่างง่ายดาย ลมพัดกระโชกมาทันที หนูน้อยมองไปรอบๆอย่างแปลกใจ
เทพขึ้นจากเรือเห็นอยู่กับฉ่ำเพิ่งวิ่งมาเหงื่อท่วมตัวก็ถามว่าทำอะไรกันมา อยู่กำลังจะเล่าว่าช่วยมะลิขุดดินแต่บุญขัดจังหวะเรียกให้ช่วยยกกำปั่นจึงชะงักหันไปช่วย...
เทพเดินจะขึ้นเรือน ได้กลิ่นดอกพุดจีบโชยมาจึงหันมองไปทางต้นไม้ใหญ่
ระหว่างนั้นมะลิกำลังมองว่ามีอะไรอยู่ในกล่อง แก้วเดินตามหาลูก รู้สึกถึงลางสังหรณ์...ใจคอไม่ดี บวบกับดีเดินร้องหามะลิอยู่ บวบเห็นแก้วไม่มีเงาหัวก็ตกใจบอกดีแต่ดีเห็นปกติ บวบจึงคิดว่าตัวเองตาฝาด
มะลิตัดสินใจเปิดกล่องไม้ ลมพัดวูบแรงจนหนูน้อยต้องป้องหน้า พอลมสงบเห็นพุดจีบห่มสไบยืนอยู่ สีหน้าเธอตื้นตันใจจากการหลุดพ้นมนตร์สะกด มะลิมองอย่างสงสัยค่อยๆเรียก
“คุณน้า...คุณน้ามาจากไหนจ๊ะ”
พุดจีบหันมองมะลิรับรู้ว่าเป็นผู้ปล่อยวิญญาณตน “น้าอยู่ที่นี่ อยู่ตรงนี้มานานแล้วจ้ะ”
“อยู่ตรงนี้? แต่มะลิไม่เคยเห็นคุณน้ามาก่อนเลย”
พุดจีบน้ำตาไหล มะลิเข้าไปเช็ดน้ำตาให้ เธอรู้สึกถูกชะตาและเอ็นดูหนูน้อยผู้นี้มาก มะลิถามอีกว่าร้องไห้ทำไม
“น้าตื้นตันใจที่เจอคนใจดีอย่างหนู...”
“หนูก็ดีใจที่เจอคุณน้านะคะ...คุณน้าเสียใจเรื่องใดจ๊ะ”
“มีคนใจร้ายกลั่นแกล้งน้า น้าชิงชังพวกมัน ใจของมันอำมหิตไม่มีสำนึก...”
“น้าอย่าโกรธนะจ๊ะ...คุณพ่อเคยพาหนูไปวัด พระท่านเทศน์สอนว่า ถ้าเราโกรธ เราก็กอดความเกลียดไว้กับตัว เราไม่มีวันพบพานความสุขได้เลย หนูชอบมองคุณน้ายิ้ม อยากเห็นคุณน้ามีความสุข คุณน้าต้องให้อภัยนะจ๊ะ”










