ตอนที่ 11
แก้วนอนรอเทพอยู่ในห้องนอนจนค่อนคืนก็ไม่เข้ามา จึงเปิดประตูผางออกไป อบนอนอยู่หน้าห้องสะดุ้งตื่นคิดว่าหลานฝันร้าย แก้วเกาสะโพกกระแทกเท้า
“ข้านอนไม่หลับ คุณเทพหอบผ้าไปนอนห้องพระโน่น คัน...”
“เอ็งจะไปไหน?”
“ข้าจะลงไปหาไอ้มิ่ง มันมียาแก้คัน”
“ข้าโดนมดกัด คันทั้งตัว ข้าไปด้วย” อบลุกตาม
“น้าอยู่นี่ อย่าให้ใครรู้ว่าฉันลงเรือนไปหาไอ้มิ่ง” แก้วปรามและกำชับก่อนจะลงเรือนไป
ด้านมิ่งกำลังดิ้นรนให้หลุดจากผีพุดจีบ แล้วคายตะกรุดออกจากปาก พอมองไปไม่เห็นผีก็จะวิ่งหนีแต่ขากลับขยับไม่ได้ ทันใดเห็นผีพุดจีบยืนถือกระจาดดอกมะลิ เหมือนตอนที่เขาเจอเธอครั้งแรก มิ่งจะหนีแต่เหมือนโดนดึงรั้งให้นอนลง ผีพุดจีบเดินเข้ามาโปรยดอกมะลิลงหน้า
“ดอกมะลิกลิ่นหอม เอ็งจำกลิ่นนี้ได้รึไม่...ข้าถามว่าเอ็งจำได้รึไม่!” มิ่งพยักหน้า มะลิกลายเป็นหนอนยั้วเยี้ยบนหน้า เขาร้องลั่นให้เอาออกไป “เขาว่าคนชั่วเห็นกงจักรเป็นดอกบัว มีเอ็งคนเดียวเสียกระมัง เห็นดอกมะลิเป็นหนอน เอ็งคงเลวชาติชั่ว!” ผีพุดจีบโปรยไม่หยุด
มิ่งส่งเสียงร้องให้คนช่วย แก้ววิ่งมาได้ยินเสียงชายชู้ก็แปลกใจรีบวิ่งไปที่กระท่อม...มิ่งพยายามสะบัดหน้าให้หนอนหลุด ผีพุดจีบหัวเราะแล้วพูดว่า
“เอ็งไม่ชอบมะลิ ข้าไม่ขืนใจบังคับดอก...”ผีพุดจีบเดินออกไป มิ่งคลายใจแต่ไม่ทันไรต้องสะดุ้งเพราะเธอมานั่งยองๆข้างหลัง “ข้าลืมเสียสนิท วันนั้นข้าไม่ทันกลับเรือน แต่จู่ๆมันก็มา” มิ่งแปลกใจว่าพูดถึงอะไร ทันใดมีเสียงเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ เขาหันมองต้องตกใจเมื่อเห็นงูเห่ากำลังเลื้อยมาใกล้ “เอ็งเป็นหมองูมีวิชากำราบงูมิใช่รึ?”
มิ่งพยายามตั้งสติบริกรรมคาถาเป่ามนตร์ใส่งู แต่มันยังแผ่แม่เบี้ยและมีงูอีกสี่ห้าตัวเลื้อยตามเข้ามา ผีพุดจีบหัวเราะร่า
“เอ็งสะกดมันไม่ได้ดอก มันเป็นงูผี งูที่เอ็งเคยฆ่ารีดพิษ กินเลือดกินเนื้อมัน”
มิ่งเห็นงูทุกตัวแผ่แม่เบี้ยจะฉกก็ร้องลั่น แก้วโผล่เข้ามาตะโกนก้อง
“หยุดนะอีนังผี!” แก้วเข้ามาด้านหลังใช้ตะกรุดฟาดใส่ ผีพุดจีบร้องโหยหวนสลายไป
“แก้ว ช่วยข้าด้วย!” มิ่งปากคอสั่น
“เอ็งเป็นอะไรถึงมานอนป่าช้า”
“นังผีมันลวงตาเป็นเอ็ง หลอกให้ข้าย่ำตะกรุดทิ้ง แล้วมันจะฆ่าข้า...”
“ฤทธิ์เดชมันไม่สิ้น เร่งไปหาพี่เหม กำราบมัน!” แก้วประคองมิ่งกึ่งลากออกไป
ooooooo










