ตอนที่ 1
ศิวัชย้ำให้พี่ชายฝาแฝดมาตามนัดเพราะมีคนสำคัญอยากให้เจอ ศิวกรรับปากแบบขอไปทีเพราะมีงานตรงหน้าที่ให้ความสนใจมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งถูกจับเป็นตัวประกัน!
ศิวกรลังเลอยากเข้าไปช่วยตัวประกันสาวแต่กลัวเอาตัวเองไม่รอด กระนั้นก็ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจแก๊งจางนำจนชาวแก๊งเพลี่ยงพล้ำโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมจับ
“จางนำ...นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ วางอาวุธแล้วออกมามอบตัวเดี๋ยวนี้!”
การล้อมจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้แก๊งจางนำแตกตื่น จางนำในฐานะผู้นำแก๊งหัวเสียมากแต่ไม่ยอมแพ้สั่งลูกสมุนลากตัวประกันสาวอย่าง
ดาวประดับหนีออกจากโกดัง แต่ไม่ทันขยับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็โยนระเบิดควันเข้ามา
ศิวกรเห็นเป็นโอกาสดีรีบไปช่วยตัวประกันสาว ดาวประดับจับต้นชนปลายไม่ถูก ทั้งเรื่องโดนจับตัวและชายหนุ่มปริศนาที่มาช่วย เธอพยายามชวนเขาคุยแต่ชายหนุ่มสนใจเรื่องพาเธอหนีมากกว่า
“เดี๋ยวผมจะล่อมันไปอีกทาง แล้วคุณรีบวิ่งออกไป”
“แล้วคุณล่ะ”
“มีตำรวจรออยู่ข้างนอก” ศิวกรเอ่ยเสียงเรียบ พร้อมถอดบัตรนักข่าวของตนให้เธอคล้องคอไว้ “บอกว่าคุณเป็นนักข่าวแล้วคุณจะปลอดภัย...พร้อมนะ”
จบคำก็พุ่งตัวไปทันทีเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจแก๊งจางนำ ดาวประดับไม่มีเวลาคิดมากรีบหนีจนเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกอย่างคงคลี่คลายหากเธอจะไม่ได้ยินเสียงปืนดังมาจากทางที่เขาวิ่งไป!
ooooooo
เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ล้อมจับแก๊งจางนำที่เชียงตุงกลายเป็นข่าวใหญ่ที่กรุงเทพฯ กระนั้น...
ช่อแพร สาวใหญ่หน้าสวยคม ผู้บริหารระดับสูงแห่งเขมวัฒน์กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทยกลับไม่ยี่หระ
ช่อแพรครุ่นคิดถึงเรื่องบางอย่างภายในห้องทำงานส่วนตัว กระทั่งเมทินี เลขาสาวผู้เป็นญาติกับปราณนท์สามีของเธอเดินเข้ามา ช่อแพรจึงปรับสีหน้าเป็นปกติแล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ
“มีอะไรเหรอเมทินี”
สีหน้าเย็นชาและท่าทางเย่อหยิ่งของเจ้านายสาวทำให้เมทินีเหมือนรู้สึกโดนข่มตลอดเวลา กระนั้นเธอก็ปั้นหน้ายิ้มแย้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เรื่องงานรับรางวัลคืนนี้น่ะค่ะ พี่ช่อจะพาใครไปด้วยหรือเปล่าคะ”
“ก็คงจะมีแค่เธอ ส่วนเธอจะพาใครไปช่วยอีกคนก็ตามใจ”
“แต่รางวัลที่พี่ช่อได้เป็นรางวัลเกี่ยวกับครอบครัว...ถ้าพี่ช่อจะพา...”
เมทินีตั้งใจจะเอ่ยถึงปราณนท์แต่ถูกช่อแพรตัดบท
“เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบพูดอะไรซ้ำซาก มีอะไรอีกไหม”
“หลังจากงานรับรางวัล...มีหนังสือกับรายการอีกสองสามรายการอยากขอสัมภาษณ์พี่ช่อน่ะค่ะ”
“เลื่อนเป็นวันอื่นแล้วกัน”
“ไม่สัมภาษณ์คืนนี้เลยล่ะคะ น่าจะไม่นาน หรือว่าพี่ช่อจะไปไหนต่อ”
คำถามเหมือนจะรู้ทันของเลขาส่วนตัวทำให้ช่อแพรต้องปรายตามองปรามๆ เมทินีจึงรู้ตัวและไม่ถามต่อ
“ได้ค่ะ...ไว้เมจะนัดให้วันอื่นแล้วกัน”
พูดจบก็หมุนตัวออกจากห้อง ก่อนชะงักเมื่อได้ยินช่อแพรเอ่ยไล่หลัง
“อ้อ...แล้วช่วยเรียกฉันว่าคุณช่อเหมือนเดิมจะดีกว่า”
“ทำไมล่ะคะ ยังไงเราก็เป็นญาติกันอยู่แล้ว เรียกกันอย่างนี้จะได้รู้สึกสนิทสนมไง”
“แล้วเธอไม่สังเกตเหรอว่าทำไมฉันถึงต้องเรียกชื่อเต็มกับเธอ คงไม่ต้องบอกเหตุผลนะ ถึงเธอจะเป็นญาติกับปราณนท์ แต่อยู่ที่นี่...เธอเป็นเลขาฉัน”
เมทินีได้ยินแบบนั้นก็หน้าตึง แต่ก็ต้องข่มใจทำตามสั่ง “ค่ะ...คุณช่อแพร”
ooooooo










