ตอนที่ 1
ค่ำคืนหนักหน่วงผ่านไปแล้ว ซุนหลิงนอนจับไข้เพราะแผลระบมจากการถูกตีแต่ไม่ยอมบอกใคร สุ้ยไถ่ตัดสินใจทำตามที่คิดเมื่อคืนคือเปิดทางให้น้องชายแต่ก่อนจะถึงเวลานั้นก็อยากหยั่งเชิงท่าทางส่งไห้อีกครั้ง
สุ้ยไถ่เริ่มต้นแผนลองใจของตนด้วยการเปิดฉากบอกเรื่องนัดหมายกับอ้ายผิงกลางโต๊ะอาหารเช้า
ส่งไห้ของขึ้นทันที “นายคิดจะทำอะไร อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะ”
“ฉันทำอะไร น้องนัดฉันเองนะ ถ้านายอยากพาน้องไปทำไมไม่ขอนัดเขาเองล่ะ”
“ก็นายให้โอกาสฉันไหมล่ะ”
เหลาไท่หรือปึงอวี้เฟย ภรรยาเจ้าสัวปึงผู้ล่วงลับ ผู้นำตระกูลปึงคนปัจจุบันและย่าสุดที่รักของสุ้ยไถ่กับส่งไห้ ทนนั่งฟังหลานชายฝาแฝดเถียงกันอยู่นานจนทนไม่ไหวเอ็ดลั่น
“พอ...พอแล้ว ไม่ใช่เด็กๆกันแล้วนะมาทะเลาะกันเรื่องผู้หญิงต่อหน้าย่า”
ฝาแฝดหนุ่มหน้าสลดก่อนจะหน้าบานเมื่อย่าเปิดโอกาสให้พูด ส่งไห้เริ่มก่อน
“เหลาไท่ก็ทราบดีว่าผมกับน้องผิงสนิทกันแค่ไหน”
สุ้ยไถ่ที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวอ้ายผิงลุคใหม่อดโพล่งไม่ได้
“บางที...เวลาที่อยู่ไกลกันอาจจะทำให้น้องคิดได้ว่าชอบใครก็ได้นะ”
“การที่เขาคุยกับนายไม่ได้แปลว่าเขาชอบนายซะหน่อย”
“ถามจริงๆเถอะ นายดูไม่ออกจริงๆหรือว่าเขาชอบใคร”
“นายมันหน้าด้าน แย่งแฟนของน้องชายตัวเอง”
“นายนั่นแหละไม่ยอมรับความจริง”
สองฝาแฝดเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียดจนเหลาไท่เหลืออด
“พอได้แล้วทั้งสองคน! ที่ตาน้อยพูดมาก็ถูก...เธอก็รู้ดีว่าสองคนนี้เขาสนิทกัน แต่ตาใหญ่พูดก็มีเหตุผล...การจากกันนานอาจทำให้คนเราเปลี่ยนไป ผู้หญิงเขาก็มีสิทธิ์จะเลือกใครก็ได้”
ส่งไห้ชักสีหน้า “ตกลงเหลาไท่เข้าข้างใครกันแน่ครับ”
เหลาไท่ถอนใจยาว เตือนสติหลานทั้งสอง “ย่าไม่เข้าข้างใครทั้งนั้น ย่าแค่พูดให้เธอสองคนคิดถึงเหตุผล ย่าไม่ต้องการเห็นหลานของย่าทะเลาะกันเพราะผู้หญิง...ย่าไม่สบายใจ”
พูดจบก็ผละไปข้างนอกโดยมีเอกขับรถให้เหมือนเคย ทิ้งหลานชายฝาแฝดให้มองหน้ากันเครียดๆ ก่อนที่สุ้ยไถ่จะตัดสินใจโทร.ยกเลิกนัดกับอ้ายผิงเพื่อเปิดทางให้น้องชายคนเดียว
ooooooo
เหลาไท่ ผู้นำตระกูลปึงเชื่อว่าหลานชายฝาแฝดของตนจะคิดได้ไม่ทะเลาะกันเพราะเรื่องอ้ายผิง แต่กลับได้แปลกใจเมื่อเอกคนขับรถบอกเรื่องหลานชายทั้งสองหอบหิ้วคนเจ็บเข้ามาในบ้านเมื่อคืน
เอกกับฟานจำได้ว่าเด็กคนนั้นทำงานในร้านเสริมสวยของเจ๊เฮียง น่าจะเป็นลูกสาวของหงเมียน้อยเจ้าสัวฟัง แต่ที่น่าเวทนากว่าคือเด็กสาวมีแผลโดนตีช้ำไปทั้งตัว เหลาไท่ฟังแล้วถอนใจยาว
“งั้นเด็กนั่นก็คงเป็นลูกอาหงล่ะสิ เออ...ฉันได้ยินว่าเขาโดนไล่ออกจากบ้าน ไม่นึกเลยว่าเขาจะยังอยู่แถวนี้”










