สองนรี

“สองขอบคุณคุณยิ่งยวดมากนะคะ”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ผมมีศักดิ์เป็นลูกเขยคุณปรียา เราเป็นครอบครัวเดียวกัน” พูดจบยิ่งยวดผละไป สองมองตามรู้สึกดีที่เขายินดีช่วยเหลือ ผิดกับศานต์ที่มองตามเขาอย่างรู้สึกผิดที่แอบเป็นชู้กับภรรยาของเขา สองเห็นสายตาของศานต์ถามว่าคิดอะไรอยู่หรือ

“เปล่าจ้ะ เข้าไปหาแม่สองเถอะ” ครู่ต่อมาสองกับศานต์มาที่ห้องนั่งเล่น เห็นปรียานั่งพักผ่อนอยู่ที่โซฟา สองถลาเข้าไปกอดถามว่าสบายดีใช่ไหม ท่านสบายดี ยิ่งได้เจอหน้าเธอยิ่งสบายทั้งกายทั้งใจ สองแนะนำแม่ให้รู้จักกับศานต์คู่หมั้นของตัวเอง

เขายกมือไหว้ “สวัสดีครับคุณอา”

“เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เรียกคุณแม่ก็ได้ค่ะ...สอง ลูกไม่น้อยใจนะที่แม่เลือกอยู่ที่นี่”

“สองเข้าใจค่ะ สองรู้ว่าคุณแม่ไม่อยากให้สองมีปัญหากับพี่หนึ่ง”

“ถ้าหนึ่งคิดได้เหมือนสองก็คงจะดี”

มีเสียงมือถือของศานต์ดังขึ้น เขาเหลือบมองหน้าจอเห็นหนึ่งโทร.มา กลัวสองจะจับได้จึงปล่อยให้ดังอยู่อย่างนั้น เธอร้องทักทำไมไม่รับสาย เขารีบตัดสายทิ้ง ไว้ค่อยโทร.กลับทีหลัง สองพยักหน้ารับคำไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร หันไปบอกปรียาว่าที่เธอมาวันนี้จะมาเชิญท่านไปงานหมั้น

จังหวะนั้นหนึ่งโทร.เข้ามือถือของศานต์อีก เขารีบเอามือปิดหน้าจอโกหกสองว่าเลขาฯของเขาโทร.มาอีกแล้วคงเป็นงานด่วน ขอตัวไปรับสายสักครู่แล้วรีบเดินออกมา สองรู้สึกว่าเขามีท่าทางแปลกๆแต่ก็ไม่สนใจอะไร ศานต์เดินออกมารับสายที่หน้าบ้านให้ห่างจากสองกับปรียา

“คุณหนึ่งครับ คือผมไม่สะดวกรับสาย ค่อยคุยกันนะครับ”

“ถ้าไม่สะดวกรับสายก็คุยกันซึ่งๆหน้าดีกว่าค่ะ”

ศานต์นิ่วหน้าแปลกใจ ค่อยๆหันไปด้านหลังเจอหนึ่งยืนถือโทรศัพท์ยิ้มอยู่ เธอเก็บมันใส่กระเป๋าแล้วเดินเข้ามาหา เขาสงสัยเธอมาที่นี่ได้อย่างไร เธอจะมาเยี่ยมแม่ก็เลยขอที่อยู่จากยิ่งยวด แล้วถามเขาว่ามาทำอะไร เขายังไม่ทันบอกว่ามาหาปรียาเรื่อง งานหมั้น หนึ่งชิงตัดพ้อเขาเสียก่อนว่าใจร้ายมาก

ที่ไม่บอกสักคำว่าจะหมั้น

“ผมขอโทษครับ ผมอยากจะเชิญคุณหนึ่ง แต่...”

“หนึ่งบอกแล้วไงคะ หนึ่งเข้าใจคุณ” หนึ่งจับมือศานต์มากุม “คุณไม่ต้องกังวลนะคะ หนึ่งไม่ทำให้คุณต้องลำบากใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น 

ขอให้คุณรู้ว่าหนึ่งอยู่ข้างคุณเสมอ”

“ขอบคุณครับ” ศานต์ยิ้มให้แล้วรีบกลับเข้าข้างในไม่อยากให้สองสงสัย หนึ่งมองตามไม่คิดจะทำอย่างปากพูดเพราะเตรียมจะไปป่วนงานหมั้นของเขากับสอง...

ปรียาชวนสองคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ระหว่างรอศานต์ ก่อนจะวกมาพูดเรื่องอาตม์ นี่ถ้าลูกไม่พามาแนะนำท่านคงเข้าใจผิดคิดว่าอาตม์เป็นคู่หมั้น

ของลูกเพราะเห็นเขาเป็นห่วงและคอยดูแลลูกไม่ห่าง